ประธาน กมธ.อุตฯจี้ "เศรษฐา" สั่งตำรวจล้างบางเครือข่ายทุนจีนเอี่ยวกากแคดเมียม

ประธาน กมธ.อุตฯจี้ "เศรษฐา" สั่งตำรวจล้างบางเครือข่ายทุนจีนเอี่ยวกากแคดเมียม





ad1

ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม จี้ "เศรษฐา" สั่งการตำรวจกวาดล้างถอนรากถอนโคนเครือข่ายทุนจีนเอี่ยวกากแคดเมียม เล็งเสนอรัฐบาลถอนวีซ่าต่างชาติทำผิดกฎหมายซ้ำซาก หลังพบกากแร่ซุกที่ชลบุรีรายเดียวกันกับที่ กรรมาธิการอุตสาหกรรมเคยชี้เป้าตำรวจไปจับมาแล้ว

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพบเจอกากแคดเมียมในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า เรื่องนี้ที่ผ่านมาทาง กมธ.อุตสาหกรรม ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการสอบสวนจนพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จึงเปิดประเด็นแถลงข่าวแจ้งไปยังรัฐบาลเพื่อสั่งการให้ดำเนินการเอาผิด ซึ่งกรณีนี้เห็นได้ว่าทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวในการเร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ากากแคดเมียมที่เจอในจังหวัดชลบุรีนั้นล่าสุดทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าตรวจสอบโดยละเอียดแล้วมีจำนวน 4,400ตัน ไม่ใช่ 6,000 ตัน จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องเร่งสืบสวนเพื่อค้นหากากเคมีอันตรายส่วนที่เหลือต่อไป ประเด็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งคือโดยที่ทั้งนายหน้าขายกากแร่จากสมุทรสาคร คนเช่าพื้นที่โรงงานที่ชลบุรีเพื่อส่งออกกากแร่และเจ้าของโรงงานที่ชลบุรี ล้วนเป็นเครือข่ายคนจีน ที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีพบกากเเร่อันตรายที่จังหวัดสมุทรสาครที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก

“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนจีนสีเทาในธุรกิจอุตสาหกรรม ที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งสอบสวนถึงความเชื่อมโยง และเร่งดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตำรวจได้สอบสวนและดำเนินคดีกับเครือข่ายนี้แบบถอนรากถอนโคนเพราะที่ผ่านกรรมาธิการอุตสาหกรรมได้เคยสอบพบเครือข่ายดังกล่าวทำผิดกฎหมายโรงงานอุตสาหกรรมซ้ำซากโดยทำลายสิ่งแวดล้อมรุนแรงและส่งผลกระทบกับชุมชนอย่างมากจนเป็นเหตุให้นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีมาแล้วโดยมีกรรมาธิการอุตสาหกรรมเป็นผู้ชี้เป้าให้หน่วยงานภาครัฐไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด” นายอัครเดช กล่าว 

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ที่ผ่านมาทาง กมธ.อุตสาหกรรม เคยได้เรียกหน่วยงานราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบสวนใน กมธ. 2-3 ครั้ง จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี และจากการประชุม กมธ. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง กมธ. ได้พิจารณาเกี่ยวกับการยกเลิกวีซ่ากับทุนต่างชาติที่เข้ามาทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ก่อนจะนำเสนอความเห็นส่งต่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป จึงขอเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยกวาระนี้ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนเครือข่ายนี้อย่างจริงจัง เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ และขับออกนอกประเทศ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้คนต่างชาติที่เป็นนายทุนมากระทำความผิดกับคนไทยและประเทศไทยอีกต่อไปเพราะทุนจีนเทาด้านอุตสาหกรรมจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนคนไทย