ปทส. เผยโรงงานบางซื่อ ซุกกากแคดเมียม ตั้งแต่ ธ.ค.63 จ่อแจ้ง 4 ข้อหาหนัก
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) พร้อมกรมโรงงานอุตสาหกรรม นำโดย นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นางวรรณาฯ ในความผิดฐาน “ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
พร้อมด้วยของกลาง กากแคดเมียม น้ำหนักรวมประมาณ 150 ตัน โดย สถานที่ตรวจยึด/จับกุม โรงงานย่าน ถ.ประชาราษฎร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. เข้าทำการตรวจค้นบริษัทฯ แห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ผลการตรวจค้นพบกากแคดเมียมกว่า 15,000 ตัน และมีบางส่วนถูกลักลอบขนออกไปยังนอกโรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล และทราบว่ามีการเคลื่อนย้ายมาในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน กก.1 บก.ปทส. เข้าร่วมทำการสืบสวน
ต่อมาพบว่ามีการขนย้ายกากแคดเมียมมาที่โรงงานในพื้นทีี่ ถ.ประชาราษฎร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ กก.5 บก.ปทส. จึงร่วมกับเจ้าพนักงานกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าทำการตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบ นางวรรณาฯ แสดงตนเป็นเจ้าของ และผู้ดูแลโรงงาน ได้นำตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบกากสารแคดเมียมบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ๊ค สีขาว จำนวน 99 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 150 ตัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อายัดกากแคดเมียมไว้ทั้งหมด และกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างกากแคดเมียมดังกล่าวเพื่อตรวจพิสูจน์ ผลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ พบว่าเป็นกากแคดเมียมจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนางวรรณาฯ ดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบถามผู้้ต้องหาเบื้องต้น นางวรรณาฯ ให้การได้รับว่ากากแคดเมียมดังกล่าวมาจาก บริษัทฯ เอกชน ที่ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายเจษฎาฯ ซึ่งเป็นกรรมการ ทยอยนำมาฝากไว้ที่โรงงานของตนตั้งแต่ เดือน ธ.ค.63 จนถึง ม.ค.64 ซึ่งต่อมาภายหลังตนทราบว่าบริษัทฯ ดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น และทราบว่ามีการครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งทางตนยังไม่ทันได้เคลื่อนย้ายกากเเคดเมียมดังกล่าวออกจากโรงงานตนแต่อย่างใด จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. และ กรมโรงงาน เข้าทำการตรวจยึดเสียก่อน โดยเบื้องต้นจะดำเนินคดีมีวัตถุอันตรายไว้ในครอบครองจะต้องประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นจึงจะได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกันทีเดียว
