ชาวมาเลย์เดินทางมาแห่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ ที่ร้านเก่าแก่เมืองเบตงคึกคัก

ชาวมาเลย์เดินทางมาแห่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ ที่ร้านเก่าแก่เมืองเบตงคึกคัก





Image
ad1

ยะลา–ใกล้ถึงวันไหว้พระจันทร์ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 17 ก.ย.ทำให้ชาวมาเลเซียและชาวไทยเชื้อสายจีนเดินทางมาแห่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ที่ “ร้านบั่นฮวด” ร้านเก่าแก่เมืองเบตงกันอย่างคึกคัก ภายหลังค่าเงินริงกิตลดลงต่ำสุดอีกครั้ง โดย 1 ริงกิตมาเลเซียสามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.76 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย แต่เป็นผลดีของร้านค้าไทยเรา เพราะค่าเงินบาทแข็งกว่า

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายว่าที่ร้านบั่นฮวด ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นร้านขายขนมไหว้พระจันทร์ดั้งเดิมของเมืองเบตง โดยบรรยากาศการซื้อของรับเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เป็นวันไหว้พระจันทร์ ทำให้ที่ร้านบั่นฮวด ก่อนถึงวันไหว้ ซึ่งทางร้านเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ รวมถึงขนมช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเปิดขายมานานกว่า 52 ปีแล้ว มีนางอุไรวรรณ แซ่เอี้ย หรือเจ๊ฟ้า อายุ 71ปี เป็นเจ้าของร้าน

นางอุไรวรรณ บอกว่า ภายหลังเงิน 1 ริงกิตมาเลเซียลดลง สามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.76 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากจะต้องแลกเงินริงกิตมาเลเซียเป็นเงินไทยเข้ามาใช้จ่าย และซื้อสิ่งของในไทย เพราะร้านค้าบางร้านไม่รับเงินริงกิตมาเลเซีย จะรับเป็นเพียงเงินบาทไทยเท่านั้น จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการทำขนมมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะออเดอร์ ที่สั่งจองจากขาประจำจากมาเลเซีย โดยที่ร้านจะขายขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำใหม่สดทุกวัน โดยมีไส้อยู่ 5 อย่างเป็นหลัก และจะเลือกเฉพาะไส้ที่ได้รับความนิยม อย่าง ถั่วเหลือง ถั่วดำ โหงวยิ้ง และไส้ธัญพืชผสมฟักเชื่อม งาดำ บัวไข่ ทุเรียน บัวเจ โดยลูกค้าประจำจะโทร.จองขนมไว้ล่วงหน้า ทำให้ลูกค้าขาจรที่ตั้งใจมาซื้อหน้าร้าน คิดว่าจะได้ของสดใหม่ ต้องผิดหวังกลับไปในบ้างครั้ง เพราะไม่มีขนมขาย

โดยขนมไหว้พระจันทร์จะขายหมดก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 17 กันยายน 2567 ชาวมาเลเซียและชาวไทยเชื้อสายจีน จะเดินทางมาซื้อกันเป็นจำนวนมาก เพราะชอบมากในรสชาติ และกรรมวิธีของชาวจีนเบตงดั้งเดิม และที่สำคัญในปีนี้ ร้านบั่นฮวดยังไม่ปรับราคาขึ้น เพราะเนื่องจากค่าเงินมาเลเซียลดลง จึงยังขายราคาเดิมเหมือนปีที่แล้ว ทำให้ยอดขายเพิ่มกว่าครึ่งเท่าตัว เนื่องจากชาวมาเลเซียจะหันมาสั่งขนมไหว้พระจันทร์ทางฝั่งไทยมาก เนื่องจากภายในประเทศขนมไหว้พระจันทร์มีราคาสูงขึ้น เพราะค่าเงินริงกิตลดลง

นางอุไรวรรณ บอกอีกว่า ปีนี้วัตถุดิบหลักอย่างแป้งปรับราคาขึ้นหมด แต่ขนมบางอย่างทางร้านยังคงขายราคาเดิม แต่ที่ต้องปรับขึ้นมา 5-10 บาท มีขนมไหว้พระจันทร์ขนาดกลาง จำหน่ายราคาลูกละ 90 บาท แพ็ค 4 ลูก รวมแพคเกจ ราคา 400 บาท ส่วนขนมโก๋ขาว ลูกละ 40 บาท ขนมโก๋เหลือง 1 ห่อมี 4 แผ่น ห่อละ 95 บาท ขนมเปี๊ยะเล็ก ลูกละ 170 บาท เปี๊ยะใหญ่ ลูกละ 350 บาท แต่จากการสังเกตลูกค้าจะลดปริมาณการซื้อลง เพราะต้องการประหยัดรายจ่าย แต่ยังคงไหว้เพื่อรักษาประเพณีเอาไว้

เจ้าของร้านขนมบั่นฮวด ยังบอกอีกว่า ช่วงนี้ชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเยอะ ทำให้การค้าขายดีขึ้น เพราะชาวมาเลเซียเดินทางมาซื้อเอง และได้เข้ามาเที่ยวเมืองเบตงด้วย