นายกฯขึงขังสั่งลุยปราบยาเสพติดสานต่องาน”เศรษฐา”
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข , นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม , พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ , น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ , พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) , พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ , ตัวแทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้มาประชุมเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศและถือเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปได้ ซึ่งปัญหายาเสพติดจะต้องดูแลเป็นอย่างดี หลังจากที่ตนลงพื้นที่มาหลายจังหวัดได้รับเสียงสะท้อนมาตลอดในเรื่องของปัญหายาเสพติดไม่ว่าจากสส.หรือประชาชนเองถือว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่หนักหน่วงทำลายทั้งสุขภาพจิตและสร้างปัญหาครอบครัว ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็น 1 ใน 10 นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในทันที โดยจะขยายผลการดำเนินงานของรัฐบาลตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสินอดีตนายกฯ ที่ให้การป้องกันและการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ หลังจากที่ได้ติดตามมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ถึงวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดเข้มข้น 25 จังหวัดที่เราโฟกัสเห็นจากการวัดผลออกมาแล้วเป้าหมายเห็นได้ชัดว่าทุกคนมีการร่วมมือกันอย่างทุ่มเทและจริงจัง ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานของภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งป.ป.ส.ที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เห็นการสำรวจความพึงพอใจจากประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นใน 25 จังหวัดนี้อย่างเห็นได้ชัด ก็ต้องฝากขอบคุณทางทีมงานด้วย ซึ่งได้ทราบมาว่าเราสามารถมีการจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่ได้หลายราย และทำให้รายเล็กถูกจับกุมไปด้วยและทำให้ปัญหายาเสพติดลดน้อยลงประชาชนรู้สึกปลอดภัยขึ้น และพึงพอใจมากขึ้นและอยากให้รีบขยายจำนวนจังหวัดให้เร็วขึ้น เพื่อ ครอบคลุมทั้งประเทศโดยเร็ว ขณะเดียวกันตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่า 25 จังหวัดที่ช่วยไปแล้ว ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ขอความช่วยเหลือเรื่องนี้มา ซึ่งเราจะต้องทำต่ออย่างเข้มแข็ง
“พื้นที่ที่ทำไปแล้วเป็นโมเดลอย่างอ.ธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ดและท่าวังผาโมเดล จ.น่าน ถือเป็นสิ่งที่ทำแล้วได้ผลมาก ซึ่งมีการพูดคุยเรื่องปัญหาชายแดนด้วย ที่จะต้องป้องกันเข้มงวดชายแดน เพื่อทำให้ยาเสพติดไม่เข้ามาจากประเทศอื่น และยังมีในเรื่องของการมอบยุทโธปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การจับกุมมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้จะให้มีการขับเคลื่อนต่อไป เพื่อเป็นการนำบทเรียนที่ทำมาแล้ว ประสบความสำเร็จใน 25 จังหวัดที่ผ่านมา นำทำต่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อะไรที่เราทำแล้วเกิดประโยชน์ก็ทำต่อไป อะไรที่เป็นขั้นตอนที่สามารถทำให้กระบวนการลดลงได้ก็อยากรบกวนให้ช่วยกระบวนการสั้นลง ตอนนี้เรามุ่งเน้นในเรื่องการปราบปรามและบำบัดเยียวยาตลอดจนทำให้ผู้เสพสามารถกลับคืนสู่สังคมได้ พร้อมกับประกอบอาชีพและมีอาชีพหลังจากที่บำบัดหายแล้ว ซึ่งบางคนบำบัดหายแล้วยังต้องกลับเข้าไปสู่ยาเสพติดอีกครั้ง ก็พยามจะจบปัญหาเรื่องนี้ให้กับประชาชนให้ได้” นายกฯ กล่าว