ศรีสะเกษนำส่วนราชการและฝ่ายท้องที่ท้องถิ่นให้กำลังใจครอบครัวทหารเหยียบกับระเบิด


จังหวัดศรีสะเกษนำส่วนราชการและฝ่ายท้องที่ท้องถิ่นให้กำลังใจครอบครัวทหารเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บพร้อมยืนยันจะดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเต็มที่

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนางโสภา ธรรมประจำจิต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้นำส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่น ผู้นำองค์กรต่างๆ เข้าเยี่ยให้กำลังใจและมอบข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคแก่นายสุทิน สมาพงษ์ อายุ 71ปี และ นางเขียว สมาพงษ์ อายุ 69 ปี ที่บ้านเลขที่ 156 หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งยาว ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นบิดามารดา จ.ส.อ.เทอดศักดิ์ สมาพงษ์ อายุ 35 ปี ตำแหน่งสนาม ผบ.มว.ปล. ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทำให้ข้อเท้าขวาขาด

ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนช่วงเวลา 09.30 น. ของวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่ประเทศไทยฐานปฏิบัติการทางทหารใกล้กับห้วยตามาเรีย ชายแดนไทย - กัมพูชา อยู่ระหว่างด้านทิศตะวันตกปราสาทพระวิหาร ไปยัง ภูมะเขือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์จังหวัดอุบลราชธานี มีนางสาวปลิยา สมาพงษ์ อายุ 30 ปี ภรรยาเป็นผู้เฝ้าดูแล ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว

ด้านการให้ความช่วยเหลือ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการสอบถามอย่างใกล้ชิดพบว่าบิดามารดาต่างเป็นผู้สูงอายุและเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะบิดาเป็นเบาหวานจนกระทบต่อดวงตาและการมองเห็น จึงเตรียมประสานโรงพยาบาลบ้านแพ้วทำการรักษาสายตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ขณะที่สวนทุเรียนประมาณ 10 ไร่นั้น จะช่วยผลักดันยกระดับ GAP สู่การเพิ่มมูลค่าตามแนวทางทำน้อยได้มาก เพื่อให้เป็นสวนทุเรียนต้นแบบของตำบลละลาย พร้อมกันนี้ได้ยืนว่ารัฐบาลและจังหวัดจะดูแลครอบครัวทหารผู้เสียสละอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ ขณะเดียวกันจะดูแลด้านรายได้จากสวนทุเรียนให้เหมาะสมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะเข้าเยี่ยมการสร้างบ้านใหม่ของนายนารี ผาแก้ว บ้านเลขที่ 33 หมู่ 5 บ้านน้ำเย็น ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากลูกปืนใหญ่ของกัมพูชา กับสถานการณ์ความไม่สงบของชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนต้องรื้อถอนและทำการสร้างใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการยกเสาเอกและเสาโทพร้อมลงมือสร้างใหม่แล้ว นับเป็นบ้านหลังสุดท้ายจากทั้ง 755 หลัง คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายใน 90 วัน

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน

