"วันชัย" ถามแรง ก.วัฒนธรรม ไปนั่งกรรมฐานอยู่ไหน ไม่จัดการแม่ค้าออนไลน์ พูดหยาบ แต่งโป๊ .

วันที่ 27 ธ.ค. 64 การประชุมวุฒิสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน ได้เปิดให้วุฒิสมาชิกตั้งกระทู้ถาม โดยนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กรณีกลุ่มเน็ตไอดอล มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องการแต่งกายและคำพูดในการไลฟ์ทางโซเชียลมีเดีย สังคมไทยในปัจจุบันยังมีข้าราชการหรือหน่วยงาน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ต้องดูแลเรื่องขนบธรรมเนียม ภาษา วัฒนธรรมและการแต่งกายอยู่หรือไม่ และจะจัดการกับบุคคลที่ใช้ภาษาไทยในการขายสินค้าและแต่งตัวไม่เหมาะสมอย่างไร
.
โดยนายวันชัยได้นำคลิปการไลฟ์ขายของพิมรี่พาย รวมถึงบุคคลอื่น ๆ มาเปิดประกอบการอภิปราย แต่นายพรเพชรอนุญาตเพียงคลิปเดียว คือ คลิปของพิมรี่พาย เนื่องจากคลิปอื่น ๆ มีการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม
.
โดยนายวันชัยระบุว่า คลิปนี้ มีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงและหยาบคาย จนทำให้บุคคลเหล่านี้กลายเป็นเน็ตไอดอล ซึ่งตนจำเป็นต้องใช้คำถามที่ตรงและรุนแรง เพราะเรื่องนี้ปรากฏสู่สังคมวงกว้าง และปัจจุบันมีการขายสินค้า โพสต์ภาพลงโซเชียล แต่งกายโชว์หน้าอก วาบหวิว รวมถึงใช้ถ้อยคำไม่สุภาพจนเกิดความเคยชิน ซึ่งมีเยาวชนรับชมจำนวนมาก ทำให้รู้สึกว่าต้องหยาบหรือถ่อยถึงจะดัง และทำให้สินค้าขายดี จนร่ำรวย
.
จึงอยากถามกระทรวงวัฒนธรรมว่าไปนั่งอยู่ที่ไหน เป็นหน้าที่หรือไม่ที่ต้องรณรงค์ให้ประชาชนใช้ภาษาอย่างสุภาพ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยได้รับสัญญาณจากกระทรวงวัฒนธรรมว่า การกระทำเหล่านี้เป็นพฤติกรรมไม่ดี ที่ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่าง เป็นการกระทำที่ชั่วและเลว ศูนย์เฝ้าระวังของกระทรวงวัฒนธรรมทำอะไรอยู่ ปล่อยให้เน็ตไอดอลเหล่านี้สร้างกระแส ไม่ใช่แค่เฉพาะคลิปที่นำมาเปิดวันนี้ แต่ยังมีอีกหลายคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
.
และจะส่งสัญญาณไปยังบุคคลที่กระทำการไม่เหมาะสมอย่างไร ภายใต้ศูนย์เฝ้าระวังของกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงจะรณรงค์ให้คนกลับมาตื่นตัว ในการใช้ภาษาไทยอย่างสุภาพเรียบร้อยอย่างไร จึงขอให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการอย่างเข้มข้น ทันต่อสถานการณ์ ทั้งที่เป็นหน้าที่ของโดยตรงของกระทรวงวัฒนธรรม แต่ไม่รู้ไปนั่งกรรมฐานอยู่ที่ไหน
.
ด้านนายอิทธิพล กล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้ให้เจ้าพนักงานไปร้องร้องทุกข์กล่าวโทษ และประสานกับกระทรวงดีอีเอส ที่มีศูนย์มอนิเตอร์เฟคนิวส์ และยอมรับว่าคลิปที่นำมาเปิด มีหลายกรณีที่เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนำเข้าสู่ระบบอันเป็นเท็จและการขายสินค้าออนไลน์ที่เข้าข่ายหลอกลวง ซึ่งมีเจ้าทุกข์เข้าร้องเรียนแล้ว และยังมีอีกหลายกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมพบและเข้าไปดำเนินการเอง
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมยังกล่าวอีกว่า เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เยาวชน รวมไปถึงโรงเรียน ผู้ปกครอง ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกจิตสำนึก ไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะเข้าใจว่าสังคมยุคดิจิทัล ต้องสร้างคอนเทนต์ ความเด่นดัง ที่มักจะใช้เรื่องการตลาดมากกว่าศีลธรรม