แหล่งข่าวเผย พื้นที่บก.น. 2 มีไม่ต่ำกว่า 30 บ่อน บางแห่งใหญ่กว่า บ่อนรัชดา 18

แฉพื้นที่บก.น. 2 มีไม่ต่ำกว่า 30 บ่อน

แหล่งข่าวเผย พื้นที่บก.น. 2 มีไม่ต่ำกว่า 30 บ่อน บางแห่งใหญ่กว่า บ่อนรัชดา 18





ad1

แหล่งข่าวเผย พื้นที่บก.น. 2 มีไม่ต่ำกว่า 30 บ่อน บางแห่งใหญ่กว่า บ่อนรัชดา 18 ยืนยันตำรวจรับส่วย ค่าเปิด 5 ล้าน ค่าดูแลหลายเดือน เงินสะพัด 100 ล้าน/เดือน ชี้เป็นของนักลงทุนชาวจีน มีคนไทยเป็นผู้บริหาร คาดช่วงนี้ปิดเงียบรอเปิดอีกครั้งเดือนสิงหาคม หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ.

ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลเชิงลึกของบ่อนในพื้นที่ บก.น.2 เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง ในทุกพื้นที่ 11 โรงพัก แต่พื้นที่ สน.สุทธิสาร ถือว่าใหญ่ที่สุด มีทั้งหมด 5 บ่อน เป็นบ่อนขนาดใหญ่ จำนวน 3 บ่อน เจ้าของเป็นนายทุนชาวจีน บางแห่งใหญ่กว่ารัชดา 18 ถึง 2 เท่า ในพื้นที่อื่นๆ ก็มีบ่อนในลักษณะเดียวกัน คือเป็นบ่อนที่สามารถจุคนได้จำนวนมาก เช่น ซอยพหลโยธิน24/2 แยกสไหว พื้นที่สน.พหลโยธิน บ่อนรามอินทรา24 พื้นที่ สน.โคกคราม ซึ่งการจะเปิดบ่อนได้จะต้องเสียงค่าเปิดหลักล้านบาท และเสียค่าคุ้มครอง เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ถูกจับ หรือ ถ้าถูกจับก็สามารถเคลียร์ได้ ส่วนนี้แล้วแต่จะตกลงกัน ขึ้นอยู่กับขนาดบ่อนด้วย แต่ถ้าเป็นบ่อน VIP อย่างบ่อนรัชดา18 ถือเป็นขนาดใหญ่มีเงินหมุนเวียน วันละไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ค่าเปิดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท จะจ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่สูงกว่าตำรวจระดับสถานีตำรวจ โดยปกติจะมี “ดาบตำรวจ” เป็นคนวิ่งเก็บเงินส่งให้กับ “ผู้กำกับหน่วยงานหนึ่ง” เพื่อส่งเข้า บช.น. แต่จะถึงมือใครบ้างคงไม่สามารถบอกได้ นอกจากนี้บ่อนยังต้องจ่ายค่าดูแล 5-7 แสน/เดือน หรืออาจน้อยลงตามขนาดบ่อน โดยการจ่ายจะต้องเป็นเงินสดทั้งหมด ดังนั้นเงินในส่วนนี้จะสะพัดไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท ไม่รวมค่าเปิดบ่อนก้อนแรกและส่วยอื่นๆ ที่เรียกค่า “กินเปล่า” อีกปีละ 100 - 120 ล้านบาท นอกจากตำรวจพื้นที่แล้ว บ่อนยังต้องจ่ายให้กับหน่วยงานอื่นๆ อีก เช่น กองปราบ แต่ก็อาจเป็นเหมาจ่ายก้อนเดียวทุกหน่วยงานก็ได้ เช่น เดือนละ 5 ล้าน แล้วไปแบ่งกันเอง

สำหรับบ่อนการพนันที่เปิดในพื้นที่กทม. มีหลายรูปแบบ ทั้ง บ่อนออนไลน์ บ่อนถั่ว บ่อนยี่กี บ่อนบาคาร่า บ่อนสมสิบ ฯ ส่วนใหญ่จะมีนักลงทุนชาวจีนจากฝั่งกัมพูชา แต่มีคนไทยเป็นผู้บริหาร และเป็นคนออกหน้าเคลียร์กับตำรวจให้ ดังนั้นเวลามีการบุกจับบ่อนการพนันจะสาวไม่ถึงตัวเจ้าของตัวจริง จะได้เพียงคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของเท่านั้น ซึ่งคนเหล่านี้จะรู้ดีว่าถึงถูกจับก็ไม่ติดคุก หรือ ติดคุกก็ไม่นาน และได้เงินเยียวยา เดือนละ 2 แสน ออกจากคุกก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม นี่เป็นระบบที่ทำกันมานานแล้ว จึงไม่สามารถจับบ่อนได้จริงๆ ไปถึงก็มีแต่บ่อนร้าง หรือที่เรียกกันว่า “ปาหี่” แต่ในกรณีของบ่อนรัชดา 18 คิดว่าตัวเองแน่ไม่มีใครทำอะไร จนเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ยังมีบ่อนแบบนี้ก็ยังมีอีกเยอะ อาจจะเป็นบ่อนนักเลง หรือบ่อนมีสี (ตำรวจเป็นเจ้าของ) เช่น บ่อนลอยฟ้า ที่ปิ่นเกล้า เพราะเป็นบ่อนนักเลง มีตำรวจหนุนหลัง ไม่มีใครอยากเสี่ยงชีวิต แต่บ่อนคนจีนเคลียร์ง่าย มักใช้เงินแก้ปัญหา

แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า ส่วยการพนันปีหนึ่งไม่กว่า 1 แสนล้านบาท ทำให้มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในทำเลทอง แต่บางพื้นที่แม้จะรับส่วยจริงแต่ก็นำเงินมาบริหารโรงพัก ช่วยเหลือประชาชน ขณะที่บางพื้นที่รับเงินก็อมไว้ในระดับก็บริหารเท่านั้น  

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการบุกจับบ่อนรัชดาภิเษก18 เมื่อกลางดึกวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้บ่อนการพนันในพื้นที่กทม. ส่วนใหญ่ปิดชั่วคราวเพื่อรอให้เรื่องเงียบ และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล.