(คืบหน้า) – 2 ช้างป่าแม่ลูกตกเหวนรกตายพบร่องรอยข้ามน้ำตกเหนือเหว ที่เป็นป่าไม่มีเพนียดป้องกันช้างความยาวระยะทางกว่า 100 เมตรพบร่องรอยเท้าช้างป่าแม่-ลูกเดินมาข้ามเหนือน้ำตก

(คืบหน้า) – 2 ช้างป่าแม่ลูกตกเหวนรกตาย

(คืบหน้า) – 2 ช้างป่าแม่ลูกตกเหวนรกตายพบร่องรอยข้ามน้ำตกเหนือเหว ที่เป็นป่าไม่มีเพนียดป้องกันช้างความยาวระยะทางกว่า 100 เมตรพบร่องรอยเท้าช้างป่าแม่-ลูกเดินมาข้ามเหนือน้ำตก





ad1

(คืบหน้า) – 2 ช้างป่าแม่ลูกตกเหวนรกตายพบร่องรอยข้ามน้ำตกเหนือเหว ที่เป็นป่าไม่มีเพนียดป้องกันช้างความยาวกว่า 100เมตรพบร่องรอยเท้าช้างป่าแม่-ลูกเดินมาข้ามเหนือน้ำตก   หัวหน้าเขาใหญ่ระบุ  เตรียมเสนอกรมอุทยานฯสร้างเพนียดกันช้างป่าต่อให้เสร็จป้องกันโศกนาฏกรรมช้างป่าตกซ้ำ! พร้อมสั่งปิดน้ำตกเหวนรกยาว ขณะที่ยังไม่สามารถกู้ซากช้างป่าได้เนื่องจากน้ำตกรุนแรง  - เหวสูงชัน

เมื่อเวลา10.50 น. วันนี้ 29 ก.ค.65   ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี   รายงานความคืบหน้า จากกรณี  นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก (ในพื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี,จ.นครนายก,จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี)  ได้รับรายงาน จากเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ๕  ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรีจังหวัดปราจีนบุรี     เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕   ว่าวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.0๐ น. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.๒.(เหวนรก) ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่าพบช้างป่าพลัดตกน้ำตกเหวนรก 

และ   ได้ประสานส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ (ปราจีนบุรี)   โดยได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุในเวลา ๑๗.00 น. แต่เนื่องจากสภาพทัศนวิสัยยากต่อการมองเห็น จึงได้วางแผนร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพื่อทำการตรวจสอบในวันที่๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕   เวลา ๑0.00 น. คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ (ปราจีนบุรี) และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบกรณีช้างป่า พลัดตกบริเวณน้ำตกเหวนรก ท้องที่ ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลีจังหวัดนครนายก พิกัด ๔๗ P ๗๕๗o๕๑ E ๑๕๘๑๗๙๙ N โดยผลการตรวจสอบในสถานที่ เกิดเหตุ พบ ซากช้างป่าไม่สามารถระบุเพศได้ นอนเสียชีวิตอยู่ในลำน้ำ จำนวน ๑ ตัว

 โดยคณะเจ้าหน้าที่ ได้ลงความเห็นว่า เนื่องจากสภาพพื้นที่ลาดชันประกอบกับกระแสน้ำที่รุนแรง ทำให้ยากต่อการเข้าถึงซากช้างป่าตัวดังกล่าว จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบ หรือผ่าพิสูจน์ซากได้ และจึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณน้ำตกเหวนรกชั้นที่ 6 (จากด้านล่างขึ้นบน)  โดยผลการตรวจสอบพื้นที่ ไม่พบซากช้างป่าเพิ่มเติม

 ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.๒๐ (เหวนรก) ติดตามการพัดพาซากช้างป่า และรอทำลายซาก ต่อไปคณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันบันทึกเป็นหลักฐาน และเดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธร  นาหินลาด อำเภอนาหินลาด จังหวัดนครนายก  

ต่อมาวานนี้  (28ก.ค.)   ที่บริเวณน้ำตกเหวนรก บริเวณชั้นที่ 1(จากด้านบนลงล่าง)  ในจุดเดียวกันกับพบซากช้างป่าตายเดิม    ได้พบมีซากช้างป่าที่เพิ่งขึ้นอืดขึ้นมาเพิ่มอีก 1 ตัว  รวมเป็นพบซากช้างป่าตาย จำนวน  2 ตัว    โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงบันทึกประจำวันเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและลงแจ้งความประจำวันในที่สถานีตำรวจในเขตที่รับผิดชอบต่อไป  พร้อมกับสั่งปิดน้ำตกเหวนรก  เพื่อกู้ซากช้างป่าดังกล่าวประกอบสภาพน้ำป่าที่รุนแรงเกรงเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว และ  สัตว์ป่าอื่น ๆ 

ทั้งนี้สำหรับซาก ช้างป่า 2 ตัวที่ตาย     คาดว่าเป็นแม่ช้าง และ  ลูกช้างป่า      โดยแม่พยายามช่วยเหลือลูกช้างตัวที่ประสบอุบัติเหตุ ตกลงมาที่น้ำตก   สร้างความสะเทือนใจแก่นักท่องเที่ยวที่พบเห็นเป็นอย่างมาก    นอกจากนั้นยังเป็นที่น่าเศร้าใจตามไปอีก เมื่อแม่ช้างที่พยายามเข้าช่วยเหลือลูกที่ตกน้ำตก     ต้องมากจมน้ำตายตามไปอีกด้วย ทำให้เหตุการณ์ล่าสุดนี้ มีช้างตายรวม 2 ตัว  ตามที่เสนอรายละเอียดไปแล้ว  นั้น

ความคืบหน้า ล่าสุด นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  กล่าวว่า “สายนี้ ได้ไปดูซากช้างป่าที่ตายทั้ง 2 ตัวเดิม   ยังเห็นซากช้างป่าจากน้ำตกเหวนรกลงไปยังติดคาซอกหินบนน้ำตกชั้นที่ 1 เหมือนเดิม   

ปัญหาที่ช้างป่าตกเหวนรกคือ   ช้างป่าไม่ได้ข้ามจากฝั่งที่คนอยู่ เพราะมี รปภ.คอยดูเฝ้าระวังคอยกั้นอยู่   แต่พบร่องรอยเดินของช้างป่าข้ามจากฝั่งตรงข้ามที่เป็นป่ามา  มีเพนียดป้องกันช้างในช่วงใกล้หัวน้ำตกเหวนรกที่ยังไม่ได้สร้างช่วงบริเวณหัวน้ำตก  เหลือประมาณ 100  เมตรเศษ  ช้างได้เดินมาเพื่อข้ามน้ำ  จึงได้ถูกน้ำป่าพัดตกลงมาช่วงพยายามข้ามน้ำลงมาตายดังกล่าว

จะได้นำเสนอกรมอุทยานฯ  ในการสร้างเพนียดป้องกันช้างป่า  ให้ถึงบริเวณหัวน้ำตกดังกล่าว ในการป้องกันช้างป่าตกลงมาตายในเหวนรกอีก

ทั้งนี้ในฝั่งตรงข้ามเป็นช่องเดินมาได้  ช้างป่าได้เดินมาข้ามใกล้ ๆ หัวน้ำตกเหวนรกนี้  มันข้ามมาจากฝั่งตรงข้ามที่เป็นป่า  ที่ได้ไปดูพบร่องรอยแล้ว       ส่วนในการนำซากช้างขึ้นมาเป็นไปได้ยากลำบากมาก   เนื่องจากเป็นหน้าผา เหวสูงชัน     

และในขณะนี้ ยังคงประกาศสั่งปิดน้ำตกเหวนรกอยู่ และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณน้ำตก   เพื่อความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว ,สัตว์ป่า ที่สภาพน้ำป่ายังแรง  และ ทางเจ้าหน้าที่ยังคงทำการกู้ซากช้างป่าทั้ง 2 ตัวดังกล่าว    ซึ่งปกติทางอุทยานฯได้สั่งปิดน้ำตกช่วงระหว่าง 1ส.ค. – 30 ก.ย. ของทุกปีอยู่แล้ว จึงได้สั่งปิดเพิ่มจากเดิมคือตั้งแต่วันนี้ 29 ก.ค.65 เป็นต้นไป”นายชัยยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า  สำหรับในพื้นที่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากด้านด่านเนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรีจ.ปราจีนบุรีขึ้นมาตลอดแนว   ฝั่งด้านตลอดเหนือแนวน้ำตกเหวนรก และ ตลอดแนวถนนสาย3077 หรือ   สายปราจีนบุรี – เขาใหญ่  เป็นบริเวณพื้นที่  ที่โขลงช้างป่าเดินผ่านให้เห็นจนชินตาบ่อย ๆ แก่นักท่องเที่ยว   และ มีช้างป่า จำนวนมาก

และ รายงานเพิ่มเติม  ที่ผ่านมาได้เคยเกิด “โศกนาฏกรรม” การพลัดตกเหวของช้างป่าเขาใหญ่ในช่วง ดังนี้    ...    จุดเริ่มต้นแห่งความสูญเสีย     นับจากอดีต  เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2529    มีรายงานจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าได้พบซากช้าง 1 ตัว นอนตายอยู่ที่น้ำตกเหวนรก เจ้าหน้าที่จึงไปยังที่เกิดเหตุทันที และได้พบช้างพลายนอนตายติดโขดหินลอยแช่น้ำอยู่ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าตกลงมาจากหน้าผาด้านบน ซึ่งมีความสูงกว่า 50 เมตร อาจตกลงมากระทบกับผาหินเป็นสาเหตุทำให้ช้างตาย คาดว่าตายมาได้ประมาณ 4-5 วัน ตามลำตัวไม่พบบาดแผลที่แสดงว่าถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงถอดเอางาของช้างตัวนี้ นำมาเก็บรักษาไว้ที่ที่ทำการอุทยานฯ ต่อไป

ความสูญเสียครั้งต่อมาราวเดือน ต.ค. 2530 ช้างป่าตกเหวตายถึง 4 ตัว เป็นแม่ช้าง 2 ตัว หนึ่งในช้างที่ตายเป็นลูกช้างที่ตกลงจากหน้าผา ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ตายทันที ลูกช้างจึงพยายามหนีตายสุดชีวิตในขณะที่บาดเจ็บขาหักอยู่เป็นเวลาถึง 2 วัน โดยไม่มีใครสามารถให้ความช่วยเหลือได้ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ สุดท้ายลูกช้างหมดแรงจึงถูกกระแสน้ำพลัดตกและตายไปในที่สุด

จากนั้นปี 2531 มีรายงานช้างป่าตกหน้าผาเหวนรกตายอีก 2 ตัว ช้างป่าตกมาจากหน้าผาน้ำตกชั้นที่หนึ่ง ก่อนถูกกระแสน้ำพัดพาซากช้างป่าตัวดังกล่าวจมหายและตกลงไปถึงน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งลึกลงไปกว่า 200 เมตร

กระทั่งโศกนาฏกรรมสูญเสียช้างป่าเขาใหญ่ครั้งสำคัญ ที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2535 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีช้างป่าแม่ลูก 8 ตัว ถูกกระแสน้ำพัดพาร่างจมหายไปในพริบตาขณะเดินข้ามธารน้ำเหนือน้ำตกเหวนรก และตายทั้งหมดอย่างน่าหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น

เจ้าหน้าที่แจ้งสาเหตุว่าเกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่เขาใหญ่ ทำให้น้ำป่าไหลหลากจากทุ่งงูเหลือมลงสู่คลองเหนือน้ำตกเหวนรก จนเกิดกระแสน้ำเชี่ยวพัดพาช้างป่าที่กำลังข้ามน้ำลอยไปตกเหวตายทั้งครอบครัว

ต่อมาไม่นานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็ได้สร้างคอนกรีต เพื่อให้ช้างได้เดินข้ามห่างจากหน้าผาประมาณ 100 เมตร เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมช้างตกหน้าผาเหวนรก และในช่วงเวลานั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ช้างป่าตกหน้าผาเหวนรกนั้นอีกเลย

กระทั่งมาเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2562 เมื่อมีรายงานว่าพบซากช้างป่าในน้ำตกเหวนรก 6 ตัว โดยพบว่าทั้งหมดตกจากหน้าผาน้ำตกเหวนรก เบื้องต้นสาเหตุมาจากมีลูกช้างป่า 1 ตัว อายุประมาณ 3 ปี ตกหน้าผาและจมน้ำบริเวณชั้นแรกของน้ำตก ก่อนพบช้างอีก 2 ตัว ที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่อยู่บนฝั่งหน้าผาของน้ำตกพยายามที่จะลงไปช่วยลูกช้างที่อยู่ในน้ำตกและมีสภาพอ่อนแรง ก่อนช้างตัวอื่นพยายามช่วยเหลือกัน ทำให้ทั้งหมดทยอยตกกันลงมาตาย สุดท้ายวันที่ 8 ต.ค. 2562 จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบซากช้างป่าในน้ำตกเหวนรกเพิ่มอีก 5 ตัว ทำให้รวมเกิดความสูญเสียช้างป่าจากเหตุการณ์นี้รวม 11 ตัว


อย่างไรก็ตามความสูญเสียครั้งล่าสุดในปีนี้  ตรงกับช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง     กลับบังเกิดเหตุสลดใจขึ้น  เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ค. 65      ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังถ่ายภาพในจุดชมวิวของน้ำตกเหวนรก ก็พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อลูกช้างถูกกระแสน้ำเชี่ยวซัดตกจากหน้าผาเหวนรก จากชั้นที่ 1 ตกลงมาสู่ชั้นที่ 2 ที่น่าเวทนาเมื่อช้างในโขลงอีก 2 ตัว คาดว่าเป็นแม่ช้าง และลูกอีกตัวพยายามช่วยเหลือลูกช้างตัวที่ประสบเหตุ สร้างความสะเทือนใจแก่นักท่องเที่ยวที่พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังเป็นที่น่าเศร้าใจตามไปอีก เมื่อลูกช้างอีกตัวที่พยายามเข้าช่วยเหลือต้องมากจมน้ำตายไปอีกด้วย ทำให้เหตุการณ์ล่าสุดนี้ มีช้างตายรวม 2 ตัว


และทั้งหมดนับเป็นความสูญเสียที่ซ้ำรอยโขลงช้างป่าตกหน้าผาเหวนรก ย้อนรอยตั้งแต่เมื่อปี 2529 เป็นต้นมา เกิดความสูญเสียแล้ว 28 ตัวด้วยกัน


***  เครดิตภาพ  -  อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ***