"บิ๊กโจ๊ก"  แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้ต้องหาความผิดคดีค้ามนุษย์ และคดีฟอกเงิน ในพื้นที่ ภ.6 และ ภ.8   ยึดทรัพย์ พร้อม จับตำรวจ ที่ร่วมทำความผิด

"บิ๊กโจ๊ก"  แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้ต้องหาความผิดคดีค้ามนุษย์ และคดีฟอกเงิน

"บิ๊กโจ๊ก"  แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้ต้องหาความผิดคดีค้ามนุษย์ และคดีฟอกเงิน ในพื้นที่ ภ.6 และ ภ.8   ยึดทรัพย์ พร้อม จับตำรวจ ที่ร่วมทำความผิด





ad1

มื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบตร.) เดินทางมายัง ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่าน.แม่สอด) อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดย ผช.ผบ.ตร ได้แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานจับกุมผู้ต้องหาความผิดคดีค้ามนุษย์ และคดีฟอกเงิน ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 6 (ภ.6) และ ตำรวจภูธรภาค 8 (ภ.8)

ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการในการเร่งรัดการป้องกันและปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบและใช้มาตรการยึดทรัพย์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพื่อตัดความสามารถในการกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก

จากนโยบายดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร). จึงได้สั่งการให้ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร) โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร., พ.ต.ท. ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผอ.คด.4 ปปง ., นางชลธชา ดาวเรือง ผอ.คด.3 ปปง. เจ้าหน้าที่ ปปง.และชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ร่วมกันวางแผนตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์และฐานความผิดที่เกี่ยวข้องในคดีอาญาฟอกเงิน เพื่อเป็นการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ไม่ให้สามารถกลับมาทำผิดได้อีก

การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ภ.6 และ ภ.8 นี้ เริ่มต้นจาก เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.8 สามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ในพื้นที่ สภ.มาบอำมฤต ภ.จ.ชุมพร จำนวน 2 คดี และ สภ.เขานิพันธ์ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 1 คดี โดยจับกุมผู้ต้องหา รวม 8 คน (ไทย 7 คน เมียนมา 1 คน) พร้อมแรงงาน ชาวโรฮิงญาอีก 14 คน โดยได้ดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ

จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการดังกล่าวนั้นมีการลักลอบขนแรงงานชาวโรฮิงญาเข้ามาในราชอาณาจักรจากฝั่งชายแดนไทย=เมียนมา  อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปส่งจุดหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้น ยังมีพฤติการณ์และ เส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวโรฮิงญาอีกคดี หนึ่ง ซึ่งถูกจับเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ที่ สภ.ทุ่งสง ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 1 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย (ไทย 1 คน เมียนมา 4 คน) ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งที่ 56/2565 ลง วันที่ 11 ก.พ.65 เพื่อทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าวเพิ่มเติม

จากการขยายผลจากเครือข่ายดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีกจำนวน 9 คน (คนไทย 4 คน, เมียนมา 5 คน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเอเย่นในการนำพาคนข้ามแดนเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาดังกล่าวถูกดำเนินคดีใน ความผิดฐาน ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมจำนวน 3 คดี (สภ.เขานิพันธ์ 1 คดี และ สภ.มาบอำมฤต 2 คดี)

นอกจากนี้ หลังจากที่ได้ทำการสอบสวนขยายผลแล้วพบว่า เส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาในคดีต้นนั้น มีความ เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ในพื้นที่ สภ.ทุ่งสง ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งศาลจังหวัดทุ่ง สงได้มีคำพิพากษาให้จำเลยจำนวน 3 คน ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์ ศาลได้พิพากษาจำคุกจำเลยรายละ 6 ปีไปแล้ว นั้น คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้รวมกับจำเลยดังกล่าวเพิ่มเติมในความผิดฐานฟอก เงินโดยกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางการจำหน่ายจ่ายโอน การได้มาซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำ ความผิดและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน อีกจำนวน 2 คดี โดยได้ขออนุมัติจับกุมผู้ต้องหา รวม23 คน (คนไทย 13 คน เมียนมา 10 คน) และยังได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อเข้าทำการตรวจค้นยึดทรัพย์และ อายัดบัญชีผู้ต้องหาในพื้นที่ 12 จังหวัด เพื่อตรวจค้นเป้าหมาย 19 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติ ดังนี้ 
1. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 18 คน หลบหนี 5 คน (สัญชาติเมียนมา) 
2. อายัดบัญชีผู้ต้องหาจำนวน 53 บัญชี เงินหมุนเวียน 1,630 ล้านบาท
3. ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 23 หลัง
4. รถยนต์ 24 คัน
5. ยึด/อายัดเรือประมง 12 ลำ
6. ทองรูปพรรณ 37 บาท
7. พอร์ตทองคำ 46.4 ล้านบาท
และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัด ทั้งหมด 196.4 ล้านบาท

นอกจากการดำเนินการกับผู้ต้องหาทั้งหมด ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น จากการสืบสวนพบว่า ก่อนที่กลุ่มชาวโรฮิงญาถูก จับกุมดำเนินคดีเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 จะถูกตรวจพบนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการขนแรงงานต่าง ด้าวดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ตชด.346 จว.ตาก จำนวน 3 คน มีพฤติการณ์กระทำผิดร่วมกับนายอาลี ลาลู ผู้ต้องหาในคดี โดยนายอาลีฯ ได้เรียกรับเงินจากชาวโรฮิงญาจำนวน 16 คน ซึ่งถูกกักตัวอยู่ในศูนย์ Organizational Quarantine (OQ) หรือ สถานที่กักตัวแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในช่วงสถานการโควิด โดยได้เรียกเงินคนละ 20,000 - 25,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยเหลือออกจากศูนย์ และนำตัวไปผลักดันออกช่องธรรมชาติให้กับขบวนการดังกล่าว เพื่อจะ ลักลอบนำกลับเข้ามายังไทยอีกครั้ง โดยนายอาลีฯ ได้แบ่งเงินให้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 90,000 บาท ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. 346 ทั้ง 3 ราย

1. ด.ต.ชาหรือโป้ ........ผบ.หมู่ ตชด. ถูกจับกุมตามหมายจับศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 6 ที่ จ.2/2555 ลงวันที่ 30 มี.ค.65 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จับกุมเมื่อวันที่ 27 ก.ค.65
2. พ.ต.ท.อรรถ........ผบ.ร้อย ตชด.
3. ร.ต.ท.พล .......รอง ผบ.ร้อย ตชด. 
ทั้งสองราย พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังได้สืบสวนจนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากด่านแม่สอด (ตม.จว.แม่สอด )จำนวน 3 นาย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สภ.แม่สอด จำนวน 4 นาย (รวม 7 นาย) อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงาน ต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนเข้าไปมีส่วนในการอำนวยความสะดวกทั้งทางตรงและทางอ้อมกับ ขบวนการหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว ซึ่งคณะทำงานมีมติในที่ประชุมให้จเรตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชา ดำาเนินการตรวจสอบและลงโทษทางวินัยกับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องต่อไป

สรุปการดำเนินการเกี่ยวกับการดำเนินคดีค้ามนุษย์ในพื้นที่ ภ.6 และ ภ.8 ดังกล่าว มีการดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น 10 คดี ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 39 ราย มีการยึดอายัดทรัพย์สินจากคดีฟอกเงินได้รวมทั้งสิ้น 196.4 ล้านบาท โดย ล่าสุดได้ทำการตรวจยึดพอร์ตทองคำมูลค่า 46.4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร .กล่าวว่า การดำเนินคดีกับเครือข่ายการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและเครือข่ายค้ามนุษย์ในครั้งนี้ นับเป็นอีกครั้งที่เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน ได้มาบูรณาการร่วมกันในการปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจังและเป็น ระบบ มีการดำเนินการกับทั้งคนนำพาข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้ เครือข่ายค้ามนุษย์สามารถกระทำความผิดได้ รวมทั้งยังมีการยึดอายัดทรัพย์สินจากผู้ต้องหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อมิให้มีทรัพย์สินที่จะนำมาใช้ในการกระทำผิดซ้ำได้อีกดังนั้นจากนี้ไปคดีค้ามนุษย์ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การปราบปรามเครือข่ายผู้กระทำผิดนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น