กก.จริยธรรม ส.ว. นัดประชุมสอบ ส.ว. 3 นัดรวด ปม "ธานี" ถ้าพิจารณาผลไม่ร้ายแรงโทษแค่ตำหนิ หากร้ายแรงส่งเรื่องไป ปปช.

03 ก.ย. 2565  สำนักข่าวไทยรายงานเมื่อวานนี้ว่า นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ครั้งที่ 14/2565 เพื่อพิจารณาคำร้องขอให้สอบสวน ส.ว.ตามประมวลจริยธรรม และข้อกล่าวหาเรื่องการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม และ ส.ท.หญิงปัทมา ศิริรัตน์ ช่วยงานวุฒิสภา โดยนายสมชาย เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติรับคำร้องทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งในรายละเอียดมีหลายข้อกล่าวหาที่ต้องพิจารณา จริงเท็จยังไม่ทราบ ต้องไปดูเอกสารหลักฐาน การพิจารณาจะใช้กรรมการเต็มคณะ โดยไม่ต้องตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นใหม่ ยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยนัดประชุมวันที่ 5 ก.ย. , 8 ก.ย. และ 12 ก.ย. 3 นัดรวดเพื่อเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใต้กำหนดเวลา 60 วันตามข้อบังคับ

“ที่ประชุมมีมติให้ พล.อ. สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ลงนามเอกสารเรียกข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า จากนั้นวันที่ 5 กันยายน ซึ่งเป็นการประชุมนัดถัดไป จะเรียกเอกสารทั้งหมดของวุฒิสภาเรื่องการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งใดในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือวุฒิสภาบ้าง ซึ่งในเวลา 11.00 น.ของวันดังกล่าว จะเชิญนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้องมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการจริยธรรมด้วย” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนนายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. ในฐานะผู้ถูกร้อง จะเชิญมาในอีกสัปดาห์ถัดไป ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงคำแถลงที่อ้างว่าพร้อมให้ข้อมูลกับกรรมการจริยธรรม ยืนยันว่าต้องให้โอกาสทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

เมื่อถามถึงหลักฐานภาพที่นายวัชระนำมายื่นให้เพิ่มเติมจะมีน้ำหนักพอให้วินิจฉัยถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ว.และ ส.ต.ท.หญิง หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง คนทำบุญทอดผ้าป่ากฐินกันได้ ก็ไม่ตัด ต้องเอามาดู แล้วให้ผู้ถูกร้องชี้แจง ส่วนข้อเสนอให้พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล มาร่วมด้วย ที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณา แต่ก็เป็นข้อมูลหนึ่งที่อาจพิจารณาว่าจะเชิญหรือไม่ ต้องดูตามเอกสารที่เราจะขอไปก่อนว่าเพียงพอหรือไม่

สำหรับกระแสที่มองว่าเป็นการตรวจสอบภายในกันเอง นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงเลย เพราะแต่ละท่านเป็นผู้แทนมา ประธานก็เป็นรองประธานวุฒิสภา หลายท่านเป็นนักกฎหมายผู้ใหญ่ เรื่องใดถูก เรื่องใดผิด เราจะพิจารณาตรงไปตรงมา ยืนยันว่ามีมาตรฐาน ไม่ช่วยกัน

“ถ้าผลการพิจารณาไม่ร้ายแรงก็เสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งอาจมีบทลงโทษ โดยเป็นการตำหนิ ตักเตือน หรือหากเห็นว่าร้ายแรงต้องส่งต่อไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันว่าวุฒิสภาทำหน้าที่ตัวเองได้ เป็นสภาที่มีวุฒิภาวะอยู่แล้ว มีความหนักแน่นตามข้อกฎหมาย” นายสมชาย กล่าว.

สำนักข่าวไทย