"อนุทิน" ฉุน บอกไม่เคยพูดสักคำพร้อมจับมือทุกขั้ว-ไม่ได้พูดด้อยค่าพรรค "ก้าวไกล"

"อนุทิน" ฉุน บอกไม่เคยพูดสักคำพร้อมจับมือทุกขั้ว

"อนุทิน" ฉุน บอกไม่เคยพูดสักคำพร้อมจับมือทุกขั้ว-ไม่ได้พูดด้อยค่าพรรค "ก้าวไกล"





ad1

04 ม.ค. 2565  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีเตรียม  ความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ "ยุทธการถอดหน้ากากคนดี" ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ก็พร้อมตอบทุกอย่าง คิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ 

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมืองว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครจะให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรแบ่งขั้ว

“ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาผมไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ผมไม่เคยพูดสักคำ พูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง

“ผมต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร  ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าแสดงว่าจับมือกับพรรคก้าวไกลได้ใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้บอกว่าจับมือกับใครเลย

เมื่อถามย้ำว่า มีการวิเคราะห์กันว่า พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ดันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยการดึงเสียงจากกลุ่มส.ว. นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตามข่าวไม่ได้เป็นการวิเคราะห์เลย เป็นการระบุว่าคุยเรียบร้อยแล้ว ตอนปีใหม่ ตนขอให้ไปตรวจสอบดูว่าช่วงปีใหม่ตนอยู่ที่ไหน “ไม่มีหรอกครับ ไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย ทำบุญอย่างเดียว ” นายอนุทิน กล่าว