นายกฯ สภาสตรีแห่งชาติฯในพระบรมราชูปถัมภ์ ลุยมอบกำลังใจผู้ประสบภัย-และหญิงชราป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ชัยภูมิ

7 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิทั้ง 16 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา สร้างความบอบช้ำให้กับพี่น้องประชาชนเกษตรกร โดยเฉพาะเขตพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิซึ่งเป็นโซนเศรษฐกิจหลักของจังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก 

จนทางนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในขณะนั้นได้ออกประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ บางส่วนเป็นเขตพื้นที่อุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งมีตัวเลขที่สูงแบ่งเป็น โซนพื้นที่เศรษฐกิจเทศบาลเมืองชัยภูมิ 19 หมู่บ้าน 251 ตำบล40,977ครอบครัว 93,243 ราย และพื้นที่การเกษตร 129,230 ไร่  ขณะที่ 15 อำเภอมี ประชาชนเดือดร้อนทั้งหมด 180 ตำบล 1,243 หมู่บ้าน 98,721 ครอบครัว ผู้ประสบภัย 269,754 ราย พื้นที่ไร่นาเกษตรกรจำนวน 1,299, 283 ไร่ และสัตว์เลี้ยงที่เดือดด้วยอีกจำนวน 26,662 ตัว
ประชากรชาวชัยภูมิทั้งหมด 6ล้านกว่าคน

ล่าสุดพ.อ.(พิเศษ)หญิง ธณตศกร บุราคม นายกองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระราชูปถัมภ์  พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ลุยน้ำท่วมนำถุงยังชีพข้าวสาร จำนวนกว่า 5 ตัน อาหารสด อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรคและข้าวกล่อง ออกเยี่ยมเยียน สำรวจ ความเดือดร้อนผู้ประสบภัยและให้กำลังใจ กลุ่มแม่บ้านสตรี รวม 4 วัน 4อำเภอ 
ในเบื้องต้นที่อ.บ้านเขว้า ต.ลุ่มลำชี ที่บ้านแผ่นดินทอง บ้านโนนน้อย บ้านคลองโลโพ บ้านวังกุ่ม บ้านท่าแก้ง  บ้านหางเรียง ตลอดริมลำน้ำชีไหลผ่าน อำเภอเมืองรอบนอก ที่ ต.บ้านค่าย บ้านเสี้ยวน้อย ต.หนองนาแซง ที่บ้านหนองโง้ง ต.บุ่งคล้า ที่บ้านโนนแดง บ้านบุ่งคล้า ม.3  ก่อนที่จะมอบข้าวสารจำนวน 300 กก. ให้ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อช่วยสนับสนุนสมทบในถุงยังชีพได้ดำเนินการนการแจกจ่ายให้กับผู้ประสพที่ยังเดือดร้อนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิต่อไป อำเภอคอนสวรรค์ ที่ ต.โนนสะอาด บ้านลำชี บ้านกุดโดน ก่อนที่จะเดินทางนำข้าวสารถุงยังชีพและเงินไว้ใช้จ่ายจำนวนหนึ่งเข้าเยี่ยมหญิงชรา อายุ 65 ปี 

ซึ่งป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทั้งยังขาดผู้ดูแลเช่าบ้านด้วยเบี้ยคนชรา-คนพิการ อยู่คนเดียวตามลำพัง ซึ่งมีเพื่อนบ้านคอยให้การช่วยเหลือตามสภาพ ที่บ้านเลขที่1198 ม.10 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อรับฟังปัญหาและจะได้ดำเนินการติดต่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบเพื่อช่วยหาแนวทางในการส่งตัวผู้ป่วยหญิงชรารายนี้ ได้เข้ารักษากายภาพกับโรงพยาบาลและแพทย์ผู้เชียวชาญ ในเบื้องต้นให้เร็วที่สุดอีกด้วย

ขณะที่ทางด้านนางสาวสุกัญญา กุลสุวรรณ์ นายอำเภอแก้งคร้อ เปิดเผยว่าทางเทศบาลได้รายงานข้อมูลร่วมถึงการปฎิบัติเกี่ยวกับผู้ป่วยหญิงชราสูงวัยรายนี้ เบื้องต้นทางเทศบาลแก้งคร้อได้มีการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้ใหญ่บ้าน เดินทางเข้าไปเยี่ยมเยียนดูแลและรับ-ส่งนำไปรับยาที่โรงพยาบาลอำแก้งคร้ออย่างต่อเนื่อง

ซึ่งผู้ป่วยรายนี้เดิมที่อยู่กับลูกชายเพียง 2คนแต่เนื่องด้วยลูกชายเพียงคนเดียวได้ถูกตัดสินจำขังภายในเรือนจำเป็นเวลา 25 ปี ก่อนที่ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการป่วยมาอย่างต่อเนื่องจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ดังกล่าว 
จึงทำให้ไม่มีคนดูแลแต่ที่ในบริเวณรอบบ้านดังกล่าวก็เป็นญาติห่างๆและได้ช่วยดูแลหญิงชราผู้ป่วยรายนี้ 
แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้จะได้ประสานทางโรงพยาบาลแก้งคร้อและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อประเมินอาการเพื่อที่จะนำไปเข้ากระบวนการการรักษากายภาพบําบัดและฟื้นฟูที่โรงพยาบาลอำเภอแก้งคร้อ เนื่องด้วยผู้ป่วยหญิงชรารายนี้มีอายุมากจึงต้องมีการให้ทางแพทย์ผู้เชียวชาญประเมินอาการให้ชัดเจนต่อไป

มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค