ศาลฎีกาไม่พลิก ลงดาบคดีเสื้อดำ ‘เปรมชัย’ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนพวกโดนด้วย -ร่วมชดใช้เงิน 2 ล้านบาท

เปรมชัย-พวก นอนคุก

ศาลฎีกาไม่พลิก ลงดาบคดีเสื้อดำ ‘เปรมชัย’ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนพวกโดนด้วย -ร่วมชดใช้เงิน 2 ล้านบาท





ad1

วันที่ 8 ธ.ค. 64 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อ่านคำพิพากษาคดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก โดยคดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย, นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถของนายเปรมชัย, นางนที เรียมแสน แม่ครัว, และ นายธานี ทุมมาศ นายพราน เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้นครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า, ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายเปรมชัยและพวกได้ร่วมกันกระทำความผิด ในพื้นที่ ทุ่งใหญ่นเรศวร อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561
.
โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 6 เดือน, นายยงค์ 2 ปี 9 เดือน, และนายธานี 2 ปี 13 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท ทั้งนี้หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวจำเลยทั้ง 3 คน ขึ้นรถไปยังเรือนจำทองผาภูมิทันที  
.
สำหรับการตัดสินโทษคดีนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 62 ศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน ไม่รอลงอาญา , สั่งจำคุก นายยงค์ 13 เดือน ไม่รอลงอาญา , สั่งจำคุก นางนที 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และ จำคุก นายธานี 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อมา จำเลยต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
.
หลังจากนั้น วันที่ 12 ธ.ค. 2562 ศาลอุทธรณ์สั่ง เพิ่มโทษนายเปรมชัย เป็นจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วนนายยงค์ ศาลเพิ่มโทษเป็น 2 ปี 17 เดือน , นางนที ศาลเพิ่มโทษเป็น จำคุก 1 ปี 8 เดือนปรับ 40,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนนายธานี ซึ่งรับสารภาพอ้างว่าเป็นคนยิงเสือดำ ศาลเพิ่มโทษเป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท ตามศาลชั้นต้น