ป.ป.ช. ยื่นคำร้องคดี ‘กนกวรรณ ’ ฝ่าฝืนจริยธรรม รุกป่าเขาใหญ่ 3 แปลง เพิกถอนออกจากตำแหน่งต่อศาลฎีกา-นัดฟัง 16 ธ.ค.นี้

ป.ป.ช. ยื่นคำร้องคดี ‘กนกวรรณ ’ ฝ่าฝืนจริยธรรม รุกป่าเขาใหญ่ 3 แปลง เพิกถอนออกจากตำแหน่งต่อศาลฎีกา-นัดฟัง 16 ธ.ค.นี้





ad1

09 ธ.ค. 2565 สำนักข่าวอิศราได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยสำนักคดีได้ยื่นคำร้องคดี นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงเพื่อเพิกถอนออกจากตำแหน่ง กรณีถูกกล่าวหาร่วมกันดำเนินการออกโฉนดที่ดิน ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 3 แปลง รุกล้ำพื้นที่อุทยานชาติเขาใหญ่ และที่หลวงหวงห้ามของรัฐ โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ต่อศาลฎีกาแล้ว

โดยศาลฎีกา มีกำหนดนัดฟังคำสั่งในวันที่ 16 ธ.ค.2565 นี้

ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า "คดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ นางกนกวรรณ มีการยืนคำร้องต่อศาลฎีกาไปแล้ว ส่วนรายละเอียดคงต้องรอสอบถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.อีกครั้ง" 

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับคดีถูกกล่าวหาร่วมกันดำเนินการออกโฉนดที่ดิน ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 3 แปลง นั้น ถือเป็นคดีที่สอง ต่อจากกรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี ที่ถูกชี้มูลความผิดพร้อมกับ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี บิดา ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้อง พร้อมสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาไปแล้ว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

โดนคดีที่สองนี้ ผู้ถูกกล่าวหา มีจำนวน 7 ราย คือ 1. นายจีรศักดิ์ ผลสุข เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี - นครนายก -ปราจีนบุรี - สระแก้ว 2. นางสุรางค์ คัณฑารมย์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ 3. นายสมศักดิ์ หีบเงิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด 4. นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติหรือจำรูญหิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ 5. นายประทาน บานชื่น เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เดินสำรวจรังวัด 6. นายคณิต เพชรประดับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ช่างสำรวจ 6 ส่วนวิศวกรรม สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ และ 7. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ในฐานะผู้นำเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน

สำหรับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ และพวก เกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดิน ทั้ง 4 แปลง แต่ถูกชี้มูลแค่ 3 แปลง  แยกเป็น

1. การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41576 นายจีรศักดิ์ ผลสุข นายสมศักดิ์ หีบเงิน นายประทาน บานชื่น กระทำการโดยไม่มีเจตนาในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีความผิดทางอาญา แต่มีความผิดทางวินัย ส่วนนางสุรางค์ คัณฑารมย์ และ นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติหรือจำรูญหิน มีมูลความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง นายคณิต เพชรประดับ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ข้อหาตกไป ขณะที่ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ มีมูลความผิดทางอาญา และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

2. การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41577 นายจีรศักดิ์ ผลสุข นางสุรางค์ คัณฑารมย์ นายสมศักดิ์ หีบเงิน นายประทาน บานชื่น นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติหรือจำรูญหิน นายคณิต เพชรประดับ มีมูลความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง ขณะที่ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ มีมูลความผิดทางอาญา และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง

3. การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41578 นายจีรศักดิ์ ผลสุข นายสมศักดิ์ หีบเงิน นายประทาน บานชื่น นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติหรือจำรูญหิน นายคณิต เพชรประดับ มีมูลความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง ส่วนนางสุรางค์ คัณฑารมย์ เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป ขณะที่ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ มีมูลความผิดทางอาญา และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

4. การออกโฉนดที่ดินเลข 41579 นายจีรศักดิ์ ผลสุข นางสุรางค์ คัณฑารมย์ นายสมศักดิ์ หีบเงิน นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติหรือจำรูญหิน นายประทาน บานชื่น เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป เช่นเดียวกัน นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่เห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูลเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไปด้วย

โดยการชี้มูลความผิดคดีนี้ ของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ นั้น ป.ป.ช. แบ่งออกเป็น 2 คดี คือ คดีทางอาญา ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ส่วนคดี ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนออกจากตำแหน่งด้วย

ขณะที่การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41578 จะขาดอายุความ 20 ปี ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 นี้

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจากศาล