อัจฉริยะ เข้าพบอัยการขอให้เลื่อนสั่งฟ้องไปก่อน ขอให้รอคดีของตนกับแซนจบก่อน กลัวเสียรูปคดีแตงโม

อัจฉริยะขออัยการเลื่อนฟ้อง

อัจฉริยะ เข้าพบอัยการขอให้เลื่อนสั่งฟ้องไปก่อน ขอให้รอคดีของตนกับแซนจบก่อน กลัวเสียรูปคดีแตงโม





ad1

อัจฉริยะ เข้าพบอัยการขอให้เลื่อนสั่งฟ้องไปก่อน ขอให้รอคดีของตนกับแซนจบก่อน กลัวเสียรูปคดีแตงโม
.
วันนี้ 11 พ.ค.65 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรันตพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางพบอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อไปสอบถาม เรื่องคดีแตงโม และปรึกษาในเรื่องของที่ตนเคยแจ้งความกับ เซน 
.


นาย อัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อปรึกษากับทางอัยการในเรื่องของการที่ตนแจ้งความกับ เเซน ไว้ เพื่อทำให้สามารถปิดคดีได้ ซึ่งหากการให้การเท็จเนี้ย มันจะมีผลกับการเปลี่ยนแปลงกับคดีหลัก ทีนี้ก็อยากให้ทางอัยการรอให้คดีของตนกับเซนจบลงก่อน เพราะว่าดูแล้วก็ยังมีเวลาเหลืออยู่ ซึ่งตอนนี้ตนได้นักกับพนักงายสอบสวนของทางภ.1 ไว้แล้ว ก็เลยจะขอปรึกษากับท่านอัยการดูก่อนว่าจะทำอย่างไรดี  ส่วนที่ทำให้ตนเชื่อว่า ถ้าหากแตงโมไม่ได้จับขา เเซน และแตงโมไม่ได้พลัดตกหลังเรือ ตรงนี้ก็คือแซนให้การเท็จ ดังนั้นที่ตำรวจตั้งไว้ว่าแตงโมตกหลังเรือก็ไม่เป็นความจริง อย่างนั้นก็ต้องเริ่มนับ1ใหม่ในการทำคดีของแตงโม ตอนนี้เราก็จะเน้นไปที่การรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับทางตำรวจภูธรภาค1 โดยมีผู้บัญชาการหลายท่านมาเป็นพยาน ส่วนในเรื่องของการค้นหาความจริงเราก็ทำต่อไป
.


ในเรื่องของผลกระทบที่จะส่งไปถึงตำรวจหรือใครต่อใคร ตนไม่ได้ไปโฟกัสที่ตรงนั้น เพราะสิ่งที่ตนทำคือการค้าหาความจริง และเราทำทุกวิถีทางที่เราทำได้และตามกรอบกำลังของเราที่มี เพราะอย่าลืมว่าตนไม่มีอำนาจ ทำได้แต่เพียงรวบรวมพยานหลักฐานแล้วส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความเห็นอย่างไรก็ไปว่ากันกับพนักงานชั้นอัยการ เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราจะนำหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่สำนวนของพนักงานสอบสวนจะเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งเพื่อมาคานอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการว่าให้รอความเห็นในเรื่องคดีของตนกับแซนก่อน  เพราะถ้าหากฟ้องไปแล้วแล้วสามารถพิสูจน์ได้ว่าแซนให้การเท็จมันจะทำให้คดีของแตงโมมีปัญหาทันที ซึ่งตนมีพยาน เช่น อาจารย์ ธวัชชัย ,แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์, และผู้เชี่ยวชาญของเราที่ทำในเรื่องของทีบีเอส และยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านอีกอีก 
.


ซึ่งในวันนี้ตนแค่เดินทางเพื่อมาปรึกษากับทางอัยการเท่านั้น ส่วนจะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนที่เจ้าหน้าที่จะรับฟังเราไหมนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ตนก็มีพยานช่วยยืนยันไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงหมอพรทิพย์และอาจารย์ธวัชชัยที่ช่วยยืนยันว่าไม่ได้ตกท้ายเรือ บาดแผลที่ขาข้างขวาก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือและเราก็มีทางทีบีเอสที่ยืนยันว่าทางตำรวจสามารถแก้ไขได้ และเรายังมีภาพเงาและแสงต่างๆ และยังมีหลักฐานอีกมาในคดีนี้ที่อยู่ในมือเรา หลังจากนี้ก็จะนำหลักฐานอีก2ชิ้นนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่รอให้ตนกลับมาจากต่างจังหวัดก่อน 
.


นาย อัจฉริยะ กล่าวอีกว่า การทำงานของอัยการคืออย่างนี้ เวลาของเขามี7พลัด และผมจำได้ว่ามันเพิ่งจะ3พลัดเอง  และครั้งนี้เป็นพลัดที่4 เราใช้เวลาไม่เกิน2พลัดหรอก ก็คือประมาณพลัดที่ 5 ยังไงอัยการเขาฟ้องทันอยู่แล้ว อยู่ที่ดุลยพินิจอยู่ที่ตำรวจมากกว่า เราก็จะทำของเราไปหาหลักฐานแต่สุดท้ายเราก็มาคานอำนาจกันว่าระหว่างพนักงานสอบสวนจะเชื่อใคร เพราะถ้าไม่มีโกงนะทำโดยสุจริต รวบรวมพยานหลักฐานจริง เขาก็ต้องให้อัยการเป็นผู้พิจารณา ถ้าอัยการเห็นด้วยกับเราคดีก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ถ้าพนักงานอัยการบอกว่าของเราไม่มีหลักฐานก็ต้องแล้วแต่อัยการ
.


ซึ่งในวันนี้ไม่สามารถพบกับทางอัยการได้เนื่องจากทางอัยการติดประชุมจึงยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือปรึกษาอะไรกัน และคงจะต้องรอให้ตนกลับมาจากต่างจังหวัดก่อน จึงจะเดินทางเข้ามาพบอีกรอบเพื่อปรึกษาในกรณีดังกล่าว