สังคมรุมสับ!พ่อใจโหดตบตีถีบลูกสาวล้มคว่ำคาโต๊ะ

สังคมรุมสับ!พ่อใจโหดตบตีถีบลูกสาวล้มคว่ำคาโต๊ะ





ad1

จากเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 ที่โพสต์ว่า “ตบตีถีบสะหล่นเก้าอี้ พ่อคนประสาอะไร ใช้อารมณ์ใช้กำลังแบบนี้ถึงเป็นลูกก็ผิด เด็กมีกฎหมายคุ้มครอง คลิปในเม้นต์ #นครสวรรค์ มึงนี่ยิ่งกว่าสัตว...อีกลูกทั้งคนทำได้ยังไงความเป็นพ่อของมึงอยู่ตรงไหนติดแค่เด็กมันทะเลาะกันนิดหน่อย น้องก็ พยายามอธิบายให้ฟัง แค่ตักเตือนลูกดีดีก็ได้ทำไมต้องลงไม้ลงมือกลับลูกตัวเองได้ขนาดนี้แล้วสภาพจิตใจเด็กจะเป็นยังไง ทำไมน้องสาวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย รอบแรกก็หนักเกินพอแล้วยังหันกลับมาทำร้ายรอบสองอีก ไม่เอามึงไว้แน่ -ใครนะครับ / น้องสาวพี่แท้ๆ - พ่อเดียวกับ..รึป่าวครับ / คนละพ่อค่ะแม่เดียวกัน –ค่ะพี่รอตำรวจดำเนินคดีพรุ่งนี้ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหา น้องบี (นามสมุติ) อายุ 14 ปี ที่ร้านขายของชำในพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยได้พบกับนางทิพย์ภัสสร์ ทองคำ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นอาของน้องบี ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวันที่  28 พ.ย.64 เวลา 18.20 น. ภาพวงจรปิดได้บันทึกว่าน้องบีได้ถูกพ่อชื่อนายวัฒนศักดิ์ ภู่ทิพย์ หรือเอก อายุ 41 ปี พ่อแท้ๆ ของน้องเข้ามาทำร้ายร่างกายในร้านขายของ ตนเองจึงได้พาน้องไปพบแพทย์และไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ในเวลา 22.00 น. โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้เข้าไปคุยกันในวันที่ 30 พ.ย.64 ช่วงบ่ายโมง 

ส่วนตัวน้องบี ตนเองได้รับมาอยู่ได้แค่ 3 เดือนเนื่องจากทางแม่ทำมาหากินลำบาก จึงให้น้องบีมาอยู่กับย่าก่อน และจะเอาเข้าเรียนต่อ เนื่องจากน้องบีได้ทำเรื่องหยุดเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ไว้ จะได้นำมาเข้าเรียนต่อที่จังหวัดนครสวรรค์ เพราะว่ากลัวเด็กจะเรียนไม่ทันคนอื่น 

ด้านนางพีรสุพัศ ภู่ทิพย์ อายุ 62 ปี ย่าของน้องบี และแม่ของนายวัฒนศักดิ์ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น คือน้องไปมีปัญหากับเพื่อนรุ่นเดียวกันในละแลกบ้านใกล้เคียง ซึ่งก็ไม่ได้รุนแรงไรมาก แต่เป็นเพราะน้องบีเผลอไปโดนตัวทางฝั่งคู่กรณี จนทำให้พ่อแม่ทางฝั่งคู่กรณีไปฟ้องบอกพ่อของน้องบีให้ตักเตือนลูก แต่กลับกลายเป็นว่า มาทำร้ายน้องบีอย่างรุนแรง โดนไม่สอบถามเรื่องความเป็นมาให้ชัดเจนก่อน ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าน้องบีผิดหรือไม่ผิดนะ แต่ก็ไม่ควรที่จะใช้วิธีการทำโทษรุนแรงกับน้องบีเช่นนี้ มันป่าเถื่อนเกินไป จึงฝากไปถึงลูกชายด้วยว่า ขอให้นึกถึงหัวอกลูก อย่าไปใช้ความรุนแรงกับลูกเช่นนี้ คนทำแบบนี้มันใช้ไม่ได้  

เมื่อถามถึงนายวัฒนศักดิ์ พ่อของน้องบี นางพีรสุพัศ ระบุว่า เขาได้เลิกกับแม่น้องบีไปตั้งแต่น้องบีอายุได้ 5 ขวบ และทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งน้องบีเขาก็อยู่กับแม่ของเขาที่ จ.ตราดมาตลอด จนกระทั่ง อาสาวได้รับมาอยู่ด้วย ส่วนนายวัฒนศักดิ์ ปัจจุบันทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และมีบ้านพักอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขา 

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้ามาช่วยเหลือและพูดคุยกับทางญาติเพื่อให้ได้รับความสบายใจ โดยเสนอให้น้องเข้าไปอยู่ในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ ก่อนเพื่อความปลอดภัย  และจะช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่จะหาทางช่วยได้แต่น้องบีปฏิเสธการเข้าไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก โดยจะขอกลับไปอยู่กับแม่ที่ จ.ตราดตามเดิม ส่วนทางญาติก็จะขอดูแลน้องบีเอง

แต่ก็ต้องรอว่า พรุ่งนี้แม่ของน้องบี ที่จะเดินทางมาหา จะดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าจะเอาเรื่องดำเนินคดีพ่อของน้องบีหรือไม่ รวมถึง จะรับน้องบีกลับไปอยู่ จ.ตราดหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ จะมีการพูดคุยกับแม่ของน้องบีอีกครั้ง แต่หากน้องบียังอยู่กับอาของเขา อาเขารับปากว่า หลังจากนี้จะดูแลให้ดีขึ้นกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก.