"ชัชชาติ" ตรวจสถานีสูบน้ำลาดกระบัง -พระขโนง เดินเครื่องเต็มที่ เร่งลดน้ำ -เป็น พ.ท.รับผลกระทบหนัก ต้องวางแผน-ปรับปรุงใหม่
"ชัชชาติ" ตรวจสถานีสูบน้ำลาดกระบัง
เมื่อช่วงค่ำ(12 ก.ย.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณสถานีสูบน้ำลาดกระบัง หลังจากเมื่อคืนก่อนได้มาตรวจครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากกลับไปมีฝนตกมาอีก 70 มิลลิเมตร เพิ่มจากที่มีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำ ยืนยันว่าได้มีการประสานงานเรื่องการระบายน้ำกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดและไม่มีปัญหาต่อกัน
สำหรับการระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ลาดกระบัง ซึ่งไม่สามารถระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกได้เนื่องจากระดับน้ำรอบนอกมีระดับสูงกว่า ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนทิศทางการระบายน้ำจากตะวันออกเข้ามาในกรุงเทพมหานครผ่านคลองพระโขนง เพื่อผลักดันน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งใช้ระยะทางเดินทางของน้ำประมาณ 22 กิโลเมตร และใช้เวลาในการระบาย อย่างไรก็ตามได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายให้เร็วขึ้นด้วย คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักมาเติมก็จะสามารถทำให้น้ำแห้งในอีก 2 วัน
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.ได้ไปเยี่ยมจุดที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง บริเวณซอยลาดกระบัง 36/1 ซึ่งท่วมเต็มพื้นที่เช่นเดียวกับจุดอื่นๆ ได้พบเห็นและเข้าใจความลำบากเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งผู้อำนวยการเขตลาดกระบังรายงานถึงการให้ความช่วยเหลือประมาณ 30 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเปิดครัวทำอาหารแจกจ่ายประมาณวันละ 300 กล่อง นำยาแก้น้ำกัดเท้ามาให้ ให้กำลังใจ และดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งนำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เข้าไปช่วยสูบน้ำออกจากชุมนุมต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม. ไปแวะที่สถานีสูบน้ำพระโขนงซึ่งเป็นปลายทางของการระบายน้ำจากคลองประเวศ ขณะนี้ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮโดรลิค ขนาด 30 นิ้วจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งทางผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำแจ้งว่าขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำออกจากคลองต่างๆ โดยเครื่องสูบน้ำในสถานีสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำพระโขนงยังคงเดินเครื่องอย่างเต็มที่ เพื่อระบายน้ำออกจากคลองให้เร็วที่สุด
ขณะนี้กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำลงคลองกระทุ่มเสือปลาเพื่อให้น้ำจากลาดกระบังไหลมาทางคลองพระโขนง และผลักดันให้ไหลออกแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็วที่สุด ช่วงค่ำวันนี้ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลดลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร แล้วจะลดลงอย่างต่อเนื่องหากไม่มีฝนตกมาซ้ำ
ซึ่งในปีนี้ปริมาณฝนตกหนักมาก เกินระดับ 120 มิลลิเมตร นับ 10 ครั้ง ลาดกระบังได้รับผลกระทบหนักมาก ในอนาคตจะต้องมีการออกแบบและปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่ เช่น ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำใช้มาหลายปีสภาพค่อนข้างเก่า อาจจะต้องปรับปรุง
ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรประสานศูนย์ประสานงานฯ สำนักงานเขตลาดกระบัง
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อศูนย์ประสานงาน 08 3023 2757 , 08 3023 3064 และ 08 3023 3406
13 ก.ย. 2565 ลาดกระบัง เมื่อช่วงค่ำ(12 ก.ย.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณสถานีสูบน้ำลาดกระบัง หลังจากเมื่อคืนก่อนได้มาตรวจครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากกลับไปมีฝนตกมาอีก 70 มิลลิเมตร เพิ่มจากที่มีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำ ยืนยันว่าได้มีการประสานงานเรื่องการระบายน้ำกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดและไม่มีปัญหาต่อกัน
สำหรับการระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ลาดกระบัง ซึ่งไม่สามารถระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกได้เนื่องจากระดับน้ำรอบนอกมีระดับสูงกว่า ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนทิศทางการระบายน้ำจากตะวันออกเข้ามาในกรุงเทพมหานครผ่านคลองพระโขนง เพื่อผลักดันน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งใช้ระยะทางเดินทางของน้ำประมาณ 22 กิโลเมตร และใช้เวลาในการระบาย อย่างไรก็ตามได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายให้เร็วขึ้นด้วย คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักมาเติมก็จะสามารถทำให้น้ำแห้งในอีก 2 วัน
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.ได้ไปเยี่ยมจุดที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง บริเวณซอยลาดกระบัง 36/1 ซึ่งท่วมเต็มพื้นที่เช่นเดียวกับจุดอื่นๆ ได้พบเห็นและเข้าใจความลำบากเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งผู้อำนวยการเขตลาดกระบังรายงานถึงการให้ความช่วยเหลือประมาณ 30 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการเปิดครัวทำอาหารแจกจ่ายประมาณวันละ 300 กล่อง นำยาแก้น้ำกัดเท้ามาให้ ให้กำลังใจ และดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งนำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เข้าไปช่วยสูบน้ำออกจากชุมนุมต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
จากนั้นผู้ว่าฯ กทม. ไปแวะที่สถานีสูบน้ำพระโขนงซึ่งเป็นปลายทางของการระบายน้ำจากคลองประเวศ ขณะนี้ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮโดรลิค ขนาด 30 นิ้วจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งทางผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำแจ้งว่าขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำออกจากคลองต่างๆ โดยเครื่องสูบน้ำในสถานีสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำพระโขนงยังคงเดินเครื่องอย่างเต็มที่ เพื่อระบายน้ำออกจากคลองให้เร็วที่สุด
ขณะนี้กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำลงคลองกระทุ่มเสือปลาเพื่อให้น้ำจากลาดกระบังไหลมาทางคลองพระโขนง และผลักดันให้ไหลออกแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็วที่สุด ช่วงค่ำวันนี้ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลดลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร แล้วจะลดลงอย่างต่อเนื่องหากไม่มีฝนตกมาซ้ำ
ซึ่งในปีนี้ปริมาณฝนตกหนักมาก เกินระดับ 120 มิลลิเมตร นับ 10 ครั้ง ลาดกระบังได้รับผลกระทบหนักมาก ในอนาคตจะต้องมีการออกแบบและปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่ เช่น ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำใช้มาหลายปีสภาพค่อนข้างเก่า อาจจะต้องปรับปรุง
ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรประสานศูนย์ประสานงานฯ สำนักงานเขตลาดกระบัง
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อศูนย์ประสานงาน 08 3023 2757 , 08 3023 3064 และ 08 3023 3406
