มติคณะสงฆ์โคราช ให้หลวงเจ้ ปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ-ใครพบเห็นห่มเหลืองให้แจ้งความได้ทันที

มติคณะสงฆ์โคราช ให้หลวงเจ้ขาดจากความเป็นพระ

มติคณะสงฆ์โคราช ให้หลวงเจ้ ปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ-ใครพบเห็นห่มเหลืองให้แจ้งความได้ทันที





ad1

นครราชสีมา-ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พระมหานภารัตน์ อายุ 26 ปี ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดอิสาณ บ้านหนองแสง ตำบลท่ากระเสริม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น แต่มีพฤติกรรมชายรักชาย ชอบตระเวนไปตามวัดต่างๆ ที่มีสามเณรอยู่จำนวนมาก แล้วจะเข้าไปชักชวนให้สามเณร มาขายบริการทางเพศให้กับตนเอง ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
.
ล่าสุดวันนี้ (15 พฤษภาคม 2565) นายศิวะเสก  สินโทรัมย์ นายอำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลจาก นายสว่าง ดีไธสง ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง หมู่ 12 ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ถึงกรณีดังกล่าว ทราบว่า พระมหานภารัตน์ นันทโก หรือพระหลวงเจ๊ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองม่วง และเคยบวชจำวัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี แต่พระหลวงเจ๊ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นนานหลายปีแล้ว   
.
ด้านพระครูปลัดระพี  จกฺกวโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย เปิดเผยว่า พระมหานภารัตน์ เดิมได้อุปสมบทที่วัดศิริโภคาภิรมย์ ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยมีเจ้าคณะอำเภอชุมพวง เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งนิสัยส่วนตัวของพระมหานภารัตน์ก็เป็นเหมือนในคลิปที่เป็นข่าว ช่วงที่อยู่ในพื้นที่ทางเจ้าคณะอำเภอก็เคยตักเตือนเรื่องพฤติกรรมมาแล้ว โดยล่าสุด พระครูอดุลชัย เจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย ได้ทำหนังสือแจ้งถึง พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 13 พฤษถาคม 2565  เรื่อง แจ้งการขับ พระมหานภารัตน์ นันทโก ออกจากสังกัดวัดจันทนไชยศรี และให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏมีความผิดชัดเจน
.
ขณะที่นายวินัย บุณยรัชตปรีชา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาลาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพระหลวงเจ๊ แต่ยังไม่พบตัวว่าอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาแต่อย่างใด จากที่เห็นจากคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องถือว่าพระหลวงเจ๊มีความผิดถึงขั้นปาราชิก ซึ่งการปาราชิกไม่จำเป็นต้องจับสึก เพราะถือว่าขาดจากความเป็นพระโดยพฤติกรรมอยู่แล้ว และจะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ส่วนความผิดทางอาญาผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดได้เลย
.
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ คณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมายังไม่พบตัวพระหลวงเจ๊ และจากการตรวจสอบข้อมูล พระหลวงเจ๊ สังกัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี บ้านหนองม่วง ตำบลบ้านยาง อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทางวัดจันทรไชยศรีได้ประกาศให้พระหลวงเจ๊พ้นจากสังกัดของวัดแล้ว และทางคณะสงฆ์อำเภอลำทะเมนชัย โดยเจ้าคณะอำเภอได้มีมติสงฆ์ให้พระมหานภารัตน์ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ นับตั้งแต่วันที่มีมติของคณะสงฆ์ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา 
.
หากใครพบเห็นพระหลวงเจ๊สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบข้อมูลว่า หลังจากพระหลวงเจ๊ได้บวชพระที่ อ.ลำทะเมนชัย ก็ออกเดินทางไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น และนานๆ ครั้งถึงจะเดินทางกลับมาที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องบ้าง แต่ล่าสุดจากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่า พระหลวงเจ๊ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานหลายเดือนแล้ว และตั้งแต่เป็นข่าวดัง ก็ไม่มีใครพบตัว ไม่สามารถติดต่อได้เลย ซึ่งเมื่อมติสงฆ์ให้ขาดจากความเป็นพระแล้ว หากใครพบเห็นพระหลวงเจ๊สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที