แจ้งข้อหา จนท.ตม.กว่า 80 นายและ 3 นายพล เอี่ยวแก๊งจีนเทา

แจ้งข้อหา จนท.ตม.กว่า 80 นายและ 3 นายพล

แจ้งข้อหา จนท.ตม.กว่า 80 นายและ 3 นายพล เอี่ยวแก๊งจีนเทา





ad1

16 ม.ค. 2565  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มคนจีนเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย ที่ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มนายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนร่วมอำนวยความสะดวกเรื่องการออกวีซา ประเภทนักเรียนและวีซาผู้ที่อยู่ในมูลนิธิต่างๆ จนทำให้มีคนจีนพักอาศัยอยู่ในไทยได้นานมากขึ้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ ตม. ทั้งอดีตผู้การและผู้การคนปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ที่มีส่วนช่วยเหลือกลุ่มทุนจีนสีเทาให้เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยตอนนี้สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานจนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งสัปดาห์นี้จะประชุมไล่เรียง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 80 คน ในจำนวนนี้รวมนายตำรวจยศ พล.ต.ต. 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 รุ่นเดียวกันกับ รอง ผบ.ตร. โดยย้ำจะต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดทุกรายอย่างเท่าเทียมกันไม่มีการละเว้น แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า แม้ผู้ต้องหาจะเป็นระดับนายพลเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อย รุ่น 47 แต่ก็จะไม่ละเว้นอย่างแน่นอน

ตามข้อมูลพบมีคนจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยวิธีการนี้ประมาณ 5,000 คน โดยปี 2563-2564 พื้นที่ความรับผิดชอบของ ตม. 4 ในภาคอีสาน ออกผิดวีซาผิดกฎหมาย กว่า 3,000 คน และ พื้นที่ตม. 5 รับผิดชอบภาคเหนือ มีออกวีซาผิดกฎหมายกว่า 1,000 คน   โดยในกลุ่มนี้เจ้าของคลับวัน พัทยา จ.ชลบุรี ใช้วิธีการนี้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เพิกถอนวีซา และเตรียมผลักดันกลับประเทศต้นทาง รวมถึงคนจีนรายอื่นๆ ด้วย

ภายในสัปดาห์หน้าจะเรียกเจ้าหน้าที่กว่า 80 นายมาแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ แม้จำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนกระทำความผิดนั้นดูเหมือนจะเยอะ แต่กำลังพล ตม.โดยรวมมีมากกว่า 20,000 นาย ดังนั้น การจัดส่วนที่ไม่ดีออกไปจะทำให้องค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หลังจากเรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว กระบวนการต่อไป คือ การดำเนินคดีทางอาญาที่จะต้องดำเนินการต่อเรื่องทรัพย์สิน โดยให้ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินต่อไป