"สนธิรัตน์" แถลงเปิดตัว "พรรคสร้างอนาคตไทย" ประกาศชัด ไม่หนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ
พรรคสร้างอนาคตไทย


19 ม.ค. 2565 “อุตตม” ควง “สนธิรัตน์” แถลงเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ลั่นไม่เสนอชื่อ “ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ระบุไม่ใช่พรรคซ้ายสุดขั้ว ขวาสุดโต่ง และไม่โกงชาติ
.
ช่วงบ่ายวันที่ 19 มกราคม 65 นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ 2 อดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวพรรคและทีมงาน "พรรคสร้างอนาคตไทย" ภายใต้สโลแกน ‘#ร่วมสร้างอนาคตไทย ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ’ที่ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทานา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มโควิด-19 โดยผู้เข้าร่วมงานต้องผ่านการตรวจ ATK ทุกคน
.
ในช่วงของการเสวนาเปิดตัวพรรค นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง "สร้างอนาคตไทย" จะไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่จะเป็นพื้นที่เปิดสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ที่จะช่วยคิดทำเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ พวกตนได้หารือและเห็นต้องกันว่าสถานการณ์ในขณะนี้น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะเศรษฐกิจ และปัญหาโรคระบาดที่ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด ตนเองและนายสนธิรัตน์ ออกมาจากรัฐบาล 1 ปีครึ่งก็ได้เจอคนมากมาย ได้รับฟังเสียงสะท้อน ทางการเมืองที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ว่าอยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดจากการรวมตัวของประชาชนจากหลายภาคส่วนมาแก้ไขปัญหาประเทศ
.
"พรรคสร้างอนาคตไทย" กำเนิดมาจากกลุ่มบุคลากรหลายความรู้หลายประสบการณ์ ทั้งคนจากสายการเมือง และคนที่มีใจอยากจะแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศ นี่คือจุดยืนหนึ่งของพรรค ประชาชนคนไทยต้องมีความหวังที่จับต้องได้ มีโอกาสพัฒนาความฝัน และเข้าถึงเเหล่งทุน ต้องมีสิทธิ์และเสรีภาพ พร้อมระบุว่า พรรคสร้างอนาคตไทย จะไม่ซ้ายสุดขั้ว ขวาสุดโต่ง และไม่โกงชาติ
.
ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองนี้ เกิดขึ้นด้วยสถานการณ์ของบ้านเมือง จริงๆตนไม่คิดจะกลับมาทำงานการเมืองอีก แต่สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ ประชาชนต่างมองหาความหวัง ที่อะไรจะเป็นสิ่งที่พาฝ่าวิกฤตที่เป็นอยู่ไปได้ โดยเฉพาะปัญหาโควิด-19 ที่กระทบถึงปัญหาปากท้องของประชาชน
.
ตนและทีมงานได้หารือกันมาเป็นระยะ และมีความรู้สึกว่า จำเป็นต้องกลับมาอีกครั้งหนึ่ง การตั้งพรรคการเมืองไม่ง่าย ไม่ใช่เเค่คิดแล้วตั้ง แต่ต้องได้รับความสนับสนุนจากประชาชน เราได้รวบรวมขุนพลชุดที่หนึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคด้วยกัน มีตั้งแต่อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีตั้งแต่คนที่อยู่ในวงการธนาคารโลก มีนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่มากมาย พรรคนี้จะไม่ใช่พรรคนักการเมืองอย่างเดียว เพราะครั้งนี้มีปราญชาวบ้านเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการตั้งพรรคการเมืองด้วย มีการระดมผู้รู้และคนที่เก่งที่สุดในแต่ละด้านมาร่วมกันทำงาน จากองค์กรที่รู้จริง ส่วนการระดมความคิดเห็นของประชาชนมาเป็นนโยบาย ที่จะเป็นมิติใหม่ของพรรคการเมืองอย่างแน่นอน "พรรคสร้างอนาคตไทย จะต้องเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเมืองไทย"
.
ขณะที่ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวได้ถึงจุดยืนในการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายอุตตม ตอบว่าการไปทำงานครั้งนั้น เพราะต้องการทำงานให้บ้านเมือง แต่เมื่อเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนตนก็ออกมา วันนี้ยังคงทำงานให้บ้านเมืองและย้ำว่าตนไม่ได้ทำงานให้ใคร และพรรคก็มีกระบวนการในการสรรหา เป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคจะมีสามคน คือหัวหน้าพรรค และอีกสองคนที่ต้องพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมพรรค ซึ่งใครที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องผ่านการประชุมของพรรคเสียก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่พรรคนอมินีของ พล.อ.ประยุทธ์
.
ส่วนนายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า จะไม่เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรค โดยพรรคที่จะสรรหานายก ที่จะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ที่จะสามารถเป็นที่ยอมรับ และสามารถนำพาประเทศไทยให้แข่งขันกับนานาประเทศได้ แต่ส่วนการสนับสนุนใครให้เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งนั้น ก็จะต้องถามประชาชนให้เป็นผู้ตัดสินใจ จากนี้ไปพรรคก็จะต้องเตรียมตัวเพื่อจะส่งผู้สมัครลงสนามการเลือกตั้งต่อไป
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ว่ามีความเหมาะสมจะเป็นหนึ่งในเเคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหรือไม่ นายกอุตตม เปิดใจว่า นายสมคิด สนิทและไม่เคยทอดทิ้งพวกตน จะเหมาะสมหรือไม่นั้น ตนก็มีความเชื่อมั่น แต่ใครจะมาเป็นนั้นก็จะต้องผ่านกระบวนการของพรรคเสียก่อน
.
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานเปิดตัวพรรคครั้งนี้ยังได้มีการนำทีมงานของพรรค ซึ่งเป็นบุคคลจากหลายภาคส่วนทั้งที่เป็นนักธุรกิจชื่อดัง และนักการเมือง อาทิ นายกำพล ปัญญาโกเมศ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, นริศ เชยกลิ่น อดีตผู้บริหารระดับสูงด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงิน, ธงชัย ชาสวัสดิ์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสิงคโปร์, ดร.บุญส่ง ชเลธร ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสวัสดิการประเทศยุโรป, วิรัช วิฑูรย์เธียร อดีตหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมจากธนาคารโลก, รักษ์พงศ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยการ สทบ.,อธิวัฒน์ พิทักษ์คุมพล รองเลขาธิการจุฬาราชมนตรี
.
ส่วนนักการเมืองที่ย้ายมาร่วมพรรคที่มีการเปิดตัวในวันนี้ ประกอบด้วย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, สุพล ฟองงาม อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, วัชระ กรรณิการ์ อดีตรองโฆษกรัฐบาลและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ, สันติ กีระนันทน์ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, พงศ์พรหม ยามะรัต อดีต CEO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเพื่อสิ่งแวดล้อม และแกนนำพรรคกล้า และมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีและอดีตแกนนำ พรรคกล้า.