เจาะงบพื้นที่สีเขียว ยิ่งพัฒนาเพิ่ม “ความเหลื่อมล้ำ” พบ 2 เขตได้งบรวมกัน 5 พันล้าน!

เจาะงบพื้นที่สีเขียว ยิ่งพัฒนาเพิ่ม “ความเหลื่อมล้ำ”

เจาะงบพื้นที่สีเขียว ยิ่งพัฒนาเพิ่ม “ความเหลื่อมล้ำ” พบ 2 เขตได้งบรวมกัน 5 พันล้าน!





ad1

เข้มข้นเข้ามาทุกขณะสำหรับศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ท้าชิงตำแหน่ง ที่ต่างเสนอนโยบายพัฒนา กทม. ให้เป็นเมืองน่าอยู่ และยกระดับการบริหารจัดการปัญหาในทุกๆ ด้าน เช่น รถติด น้ำท่วม ระบบขนส่งสาธารณะ ถนนแย่ ฟุตบาทเน่า เป็นต้น 
.
▪️ กทม. เป็น “เมืองโตเดี่ยว” มีประชากรประมาณ 9 ล้านคน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน ‘พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง’ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่า กทม. มานานกว่า 5 ปี และทีมงานจะถึงวาระสละตำแหน่ง ล่าสุดสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UddC-CEUS) ได้เผยผลการประเมินผลงานผู้ว่าฯ อัศวิน และข้อเสนอแนะสำหรับคนใหม่
.
ทีมวิจัยระบุว่า กทม. เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย มีลักษณะเป็น “เอกนคร” (primate city) หรือ “เมืองโตเดี่ยว” ซึ่งหมายถึงการเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีขนาดของประชากรมากกว่าเมืองอันดับรองอย่างมาก มีประชากรประมาณ 9 ล้านคนในปี 2563 และมีสัดส่วนของเศรษฐกิจ ร้อยละ 36.3 ของ GDP ทั้งประเทศ กทม. จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม
.
▪️ แก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด และขยายความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ให้มากขึ้น
.
รายงานฉบับนี้เน้นศึกษา 9 ด้านสำคัญ ซึ่งหน่วยงานทั้งสองมีความเชี่ยวชาญ คือ 1. การวางผังเมือง 2. การจราจรและความปลอดภัย 3. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 4. การจัดการขยะมูลฝอย 5. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว 6. การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย 7. การส่งเสริมทักษะเพื่อการประกอบอาชีพ 8. การศึกษา และ 9. การรักษาพยาบาล
.
ทั้งนี้ หนึ่งในผลงานที่ กทม. และรัฐบาลผลักดันเร่งด่วน และชูเป็นผลงานเด่น คือ “การเพิ่มพื้นที่สีเขียว” เนื่องจากเมื่อนำมาเฉลี่ยต่อจำนวนประชากร ได้ 7.6 ตารางเมตรต่อคน ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจากการประเมินผลงานผู้ว่าฯ อัศวิน ที่มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้อย่างน้อย 9 ตารางเมตรต่อคน ให้ได้ภายในปี พ.ศ 2575 แม้เป็นเป้าหมายที่น่าชื่นชม แต่ทีมวิจัยชี้ว่าหากพิจารณานโยบายในปัจจุบัน พบว่ายังเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด และขยายความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ให้มากขึ้น
.
▪️ 2 เขตได้งบรวมกัน 5,356 ล้าน ที่เหลือได้เขตละ 20 ล้าน!
.
เนื่องจากการเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามนโยบายดังกล่าว กทม. ได้ทุ่มงบประมาณไปกับโครงการขนาดใหญ่และเมกะโปรเจกต์ 5 โครงการใน 4 เขตของย่านพาณิชยกรรมศูนย์กลางเมือง ซึ่งประกอบด้วยโครงการพัฒนาสวนสาธารณะ 2 โครงการ ในงบประมาณที่สูงเกินกว่าโครงการสวนสาธารณะที่ผ่านมาของ กทม. อย่างมาก ทั้งที่เขตปทุมวัน และเขตสาทร จัดเป็นเขตใจกลางเมืองที่มีมาตรฐานพื้นที่สีเขียว สูงกว่าทั้งค่าเฉลี่ยของ กทม. และมาตรฐานขั้นต่ำขององค์การอนามัยโลก ได้แก่ 

1. โครงการปรับปรุงสวนลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมีงบประมาณสูงถึง 3,800 ล้านบาท 

2. โครงการสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี เขตสาทร ซึ่งมีงบประมาณสูงถึง 1,556 ล้านบาท
.
“ข้อมูลของสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. ชี้ว่า การกำหนดงบประมาณเพื่อปรับปรุงสวนลุมพินี และสวนคลองช่องนนทรี ไว้ถึง 5,356 ล้านบาท ทำให้ กทม. มีงบประมาณเหลือเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสำหรับเขตอื่นๆ ที่เหลือทั้งหมดเพียง 20 ล้านบาท โครงการทั้งสองจึงไม่ช่วยลดแต่กลับจะขยายความเหลื่อมล้ำระหว่างเขตต่างๆ และทำให้ประชาชนในเขตอื่นต้องเดินทางเข้ามาใจกลางเมือง เพื่อใช้บริการสวนสาธารณะเช่นเดิม” ทีมวิจัยระบุ
.
▪️ 5 พันล้าน จัดสรรใหม่ให้เขตที่ “ไม่มีพื้นที่สีเขียว - มีน้อยมาก”  ได้เขตละ 150 ล้าน
.
สำหรับข้อเสนอแนะต่อผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่นั้น ควรชะลอการเพิ่มในเขตย่านพาณิชยกรรมศูนย์กลางเมือง ที่มีพื้นที่สีเขียวสูงกว่ามาตรฐานขั้นต่ำอยู่แล้ว และเร่งกระจายงบประมาณไปยัง 23 เขตที่ไม่มีพื้นที่สีเขียว เช่น เขตบางนา เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา เป็นต้น ตลอดจนอีก 13 เขตที่มีพื้นที่สีเขียวต่ำกว่า 3 ตารางเมตรต่อคน โดยหากนำงบประมาณ 5,356 ล้านบาท ที่ปรับปรุงสวนลุมพินีและสวนคลองช่องนนทรี ไปจัดสรรใหม่ให้เขตที่ยังขาดแคลน แต่ละเขตก็จะได้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท
.
“กทม. ควรพัฒนาพื้นที่สีเขียวในรูปแบบภาคีพัฒนา กับเจ้าของที่ดิน เช่น หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และศาสนสถานต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่ดิน นอกจากนี้ กทม. สามารถส่งเสริมให้เอกชนรายใหญ่ที่เป็นเจ้าของอาคาร มีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่สีเขียว เช่น พื้นที่สีเขียวบนหลังคาอาคาร โดยการออกข้อบัญญัติตามตัวอย่างของหลายมหาคร เช่น สิงคโปร์ ปารีสหรือหลายเมืองในสวิตเซอร์แลนด์” ระบุ