กองทัพภาค 3 ยึดดูแลผู้อพยพลี้ภัยสู้รบชาวกะเหรี่ยง ตามหลักมนุษยธรรม

กองทัพภาค 3 ยึดดูแลผู้อพยพลี้ภัยสู้รบชาวกะเหรี่ยง ตามหลักมนุษยธรรม





ad1

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา ในพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดตาก ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 16 - 28 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army : KNLA) กองพลน้อยที่ 6 ในพื้นที่บ้านเลเก้ก่อ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้อพยพข้ามมายังฝั่งไทย 

ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ กองกำลังนเรศวร รับผิดชอบอำนวยการดูแล ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่อำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ บ้านมหาวัน, บ้านหมื่นฤาชัย, บ้านแม่ตาวกลาง, บ้านดอนชัย และบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง โดยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม และสิทธิมนุษยชน  โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก, จังหวัดตาก, กองกำลังนเรศวร และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมดูแล ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ตามหลักมนุษยธรรม

2. โรงพยาบาลแม่สอด จัดแพทย์ พยาบาล เข้าดูแลและให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่
3. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ร่วมกับ กองกำลังนเรศวร อำนวยความสะดวกในการจัดยานพาหนะ รับ-ส่ง ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ในการเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจ
4. กองกำลังนเรศวร จัดกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่พักพิงของ        ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ปะทะภายในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจไปแล้ว จำนวน 6,070 คน คงเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) จำนวน 4,080 คน ใน 2 พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวเท่านั้น ได้แก่ บ้านมหาวัน และบ้านหมื่นฤาชัย ที่ยังรอการเดินทางกลับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในโอกาสต่อไป

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า         การบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย และพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ จะได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไป