สุดอนาถ!แก๊ง‘OD’ลวงซ้ำซาก อัพเกรดตุ๋นลงทุนสกุลเงินเทรดปลอม

สุดอนาถ!แก๊ง‘OD’ลวงซ้ำซาก  อัพเกรดตุ๋นลงทุนสกุลเงินเทรดปลอม





ad1

สุดอนาถใจ ขบวนการแชร์ลูกโซ่ “OD Capital”กฎหมายไทยทำลายได้ไม่สิ้นซาก แปลงโฉมเปลี่ยนร่างหลอกลวงซ้ำซาก พลิกวิธีการยกระดับล่าเหยื่อ ก้าวสู่โลกการเงินดิจิตอล กลายพันธ์งัดวิชามารล่อให้ลงทุนสกุลเงินเทรดปลอม จาก “OD CAPITAL” ขยับมาเป็น “SGB Corporation”ไปอีกขั้นเป็น “AIMC GLOBAL”และแปลงกายเป็น “MAXMA Infinity” ลวงแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เผยกลุ่มคนรุ่นใหม่ติดกับยันหญิงวัยทองฝันหวานควักเงินนับ 10 ล้านบาทลงทุน เมื่อความจริงปรากฏสิ่งชั่วร้ายโผล่ จึงรวมตัวร้องทุกข์ “DSI”ดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565  ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้ง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ หัวหน้าพรรคภาคีเครือข่ายไทย ได้พาผู้เสียหายกว่า 20 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เพื่อให้ดำเนินคดี บริษัท AIMC Global หลังถูกหลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ แต่ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันยังมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องเงินเยียวยาเงินคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป

น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยทำผิดมาแล้วเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มหลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ OD capital เมื่อช่วง 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งถูกดำเนินคดีและได้รับการประกันตัวออกมา แต่ยังมาก่อเหตุลักษณะเดิมแค่เปลี่ยนชื่อการลงทุนเท่านั้น โดยใช้สกุลเงินเทรดปลอมขึ้นมา 3-4 เว็บไซต์ จนปัจจุบันกลายมาเป็น AIMC Global โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อและได้รับผลกระทบกว่า 5-6 พันคน พร้อมยังชักชวนผู้เสียหายลาออกจากงานเพื่อมาร่วมทำธุรกิจดังกล่าว ในขณะที่ AIMC Global ไม่ได้มีการโฆษณาออกสื่อทั่วไป เพราะคนร้ายรู้วิธีการหลอกจึงใช้วิธีการบอกต่อๆกัน สำหรับความเสียหายจากการรวมยอดของผู้ลงชื่อเข้าร้องทุกข์ประมาณ 59 ล้านบาท จากจำนวนผู้เสียหาย 64 ราย และยังมีผู้ไม่แสดงตัวเกือบ 6 พันคน

อย่างไรก็ตาม การหลอกลวงของขบวนการดังกล่าวนี้ มีความซับซ้อนและมีเส้นทางในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีการในการหลอกลวงรวมทั้งการเปลี่ยนชื่อบริษัท ขณะที่ขบวนการดังกล่าวเป็นกลุ่มคนกลุ่มเดิมที่เคยกระทำความผิดและเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวนี้ทางองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่และทนายความได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานมอบให้กับทาง ดีเอสไอ แล้ว

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เบื้องต้น ดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบพยานหลักฐาน พบว่ามีเอกสารจำนวนมากและคดีมีความซับซ้อนทางเส้นทางการเงิน ต้องพิจารณาตามขั้นตอน ทั้งนี้ การหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่ในปัจจุบันไม่มีการโฆษณาทางเว็บไซต์แต่ใช้ลักษณะการพูดต่อๆ กันจากปากต่อปากจึงมีแนวโน้มเสียหายรุนแรงเป็นวงกว้าง

สำหรับกลุ่มผู้เข้าร้องทุกข์ในครั้งนี้ ปรากฏว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในวัยที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน ซึ่งแต่ละคนได้นำเงินมาลงทุนนับล้านบาท อย่างไรก็ตามปรากฏว่ายังมีหญิงวัยทองที่ได้ทุ่มเงินลงทุนในธุรกรรมดังกล่าวนับ 10 ล้านบาทกันเลยทีเดียว