'ติช นัท ฮันห์' ผู้นำจิตวิญญาณระดับโลก ละสังขาร สิริอายุ 95 ปี

'ติช นัท ฮันห์' ผู้นำจิตวิญญาณระดับโลก ละสังขาร สิริอายุ 95 ปี





ad1

"ติช นัท ฮันห์" ผู้นำจิตวิญญาณระดับโลก ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 95 ปี ที่ วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565 เพจเฟซบุ๊ก หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ และเพจ Thai Plum Village ของ หมู่บ้านพลัมนานาชาติ รายงานว่า พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ท่านได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อเช้าวันที่ 22 มกราคม 2565 ที่ ณ วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม สิริอายุ 95 ปี

ท่านเป็นพระมหาเถระนิกายเซนผู้สนับสนุนให้พุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน คำสอนเรื่องสติและการดำรงอยู่ในปัจจุบัน เป็นคำสอนสำคัญ ท่านย้ำเตือนอยู่เสมอให้ทุกคนมีสติในทุกการกระทำ ทั้งการเดิน นั่ง นอน ยิ้ม

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2554 ท่านและนักบวชจากหมู่บ้านพลัมได้เมตตามาแสดงธรรมและนำปฏิบัติภาวนาตลอดวันที่สวนโมกข์กรุงเทพ (หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ) มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างเนืองแน่นตลอดวัน

เราขอเชื้อเชิญครอบครัวทางจิตวิญญาณทั่วโลกได้หยุดใช้ชั่วเวลาสักครู่ในความสงบ และกลับคืนสู่ลมหายใจแห่งสติ เพื่อที่เราจะได้โอบรับหลวงปู่ไว้ในหัวใจ ในสันติและความสำนึกคุณด้วยความรักต่อทุกสิ่งที่ท่านได้มอบให้ไว้ในโลก

ทั้งนี้ ติช นัท ฮันห์ เป็นพระภิกษุชาวเวียดนาม เกิดปี พ.ศ.2469 ในจังหวัดกวางสี ภาคกลางของเวียดนาม มีนามเดิมว่า เหงวียน ซวน เป๋า เป็นผู้นำเสนอความคิด พุทธศาสนาต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และพุทธธรรม เป็นสิ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิธีชีวิตยุคปัจจุบันได้ (Engage Buddhism) เป็นที่รู้จักในฐานะ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ พระอาจารย์เซน พระมหาเถระในพุทธศาสนามหายานผู้สอนการฝึกสมาธิภาวนา เป็นกวี นักเขียน นักต่อสู้เพื่อสันติภาพ


ในปี พ.ศ.2485 บรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา เมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้ ต่อมาปี พ.ศ.2492 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุ 23 ปี เดินทางไปไซ่ง่อนเพื่อฟื้นฟูพุทธศาสนาและเขียนบทความ ทำให้ถูกต่อต้านจากผู้นำองค์กรชาวพุทธและรัฐบาลในระยะนั้น

ต่อมา พ.ศ.2505 ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเพื่อศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ จึงเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น 1 ปี ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย แต่ได้ตัดสินใจกลับเวียดนาม เพื่อสานต่อแนวคิดพุทธศาสนาที่รับใช้สังคม ก่อตั้งโรงเรียนยุวชนรับใช้สังคม เยียวยาความเสียหายจากสงคราม ได้รณรงค์ต่อสู้เพื่อสันติภาพ โดยรณรงค์ให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

โดย มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ได้เสนอชื่อ ติช นัท ฮันห์ เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลเวียดนามจึงปฏิเสธการกลับประเทศ ทำให้ต้องลี้ภัยอย่างเป็นทางการไปอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัย และสร้างอาศรมนอกปารีส เพื่อเขียนหนังสือและปลูกพืชสมุนไพร และยังคงทำงานเพื่อสันติภาพ และผู้ลี้ภัยอยู่เสมอ

กระทั่งปี พ.ศ.2518 ติช นัท ฮันห์ ได้สร้าง อาศรมมันเทศ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส และย้ายลงไปตอนใต้ โดยตั้งชื่อใหม่ว่า หมู่บ้านพลัม ตามชื่อต้นพลัมที่ปลูกอยู่ทั่วผืนดิน โดยมีการกระจายหมู่บ้านพลัมไปใน 31 ประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี อเมริกา และไทย