ผบช.ตำรวจไซเบอร์สั่ง ‘สารวัตรคม-ส.ต.ท.’ อุ้มรีด ออกจากราชการไว้ก่อน

ผบช.ตำรวจไซเบอร์สั่ง ‘สารวัตรคม-ส.ต.ท.’ อุ้มรีด ออกจากราชการไว้ก่อน





ad1

จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ อุ้มสองสามีภรรยาพร้อมข่มขู่ผู้เสียหายเพื่อเรียกเอาทรัพย์สินนั้น ต่อมาวันที่ 2 เมษายน 2565 พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้แจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการตำรวจสังกัด บช.สอท. จำนวน 2 ราย ในฐานความผิดร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จากนั้นในวันเดียวกัน (2 เม.ย.65) พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหา 1 ราย ไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอฝากขังไว้ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดพร้อมยื่นเรื่องขอคัดค้านการประกันตัว โดยศาลได้อนุมัติตามคำร้อง และไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัวในชั้นศาล เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาให้กับประชาชน

โดยผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย จากนั้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันที่ 4 เม.ย.65 ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่จะเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ล่าสุด พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ลงนามในคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ 50/2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ลงวันที่ 2 เมษายน ความว่า ด้วย ว่าที่ พ.ต.ต.คม รอดเภา สว.(สอบสวน) กก.3 บก.สอท.5 และ ส.ต.ท.อภิสิทธิ์ ฉาสันเทียะ ผู้บังคับหมู่กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอย่างร้ายแรง โดยเป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดฐานร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพโดยกระทำความผิดกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามเลขคดีอาญาของสถานีตำรวจนครบาลบางนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม เวลาประมาณ 14.40-23.30 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 15 คน ร่วมกันรีดเอาทรัพย์สินจาก น.ส.กาญจนาภรณ์ ช่วงกรุด และนายธวัชชัย สร้อยทอง ผู้เสียหาย เป็นเงิน จำนวน 400,000 บาท พร้อมพระเครื่อง จำนวน 1 องค์ ราคา 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 650,000 บาท

ต่อมาปรากฏพยานหลักฐานว่าเป็นสองนายตำรวจสังกัด บช.สอท. ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว จึงมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2557 ข้อ 3 (1) โดยมีกรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ และพนักงานอัยการมิได้รับเป็นทนายแก้ต่างให้ อีกทั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายต่อทางราชการ และการสอบสวนพิจารณาจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2557 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2557 ข้อ 8 จึงให้ ว่าที่ พ.ต.ต.คม รอดเภา และ ส.ต.ท.อภิสิทธิ์ ฉาสันเทียะ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป