แถลงร่วม 3 ฝ่าย สรุปผลการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

แถลงร่วม 3 ฝ่าย สรุปผลการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้





ad1

 แถลงร่วม 3 ฝ่าย สรุปผลการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำเดือน มีนาคม 2565

 วันนี้ (5 เมษายน 2565 ) เวลา 09.00 น. ที่กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พันเอก เกียรติศักดิ์  ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย นายอำนวย  ศรีระเเก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พันตำรวจโท ภนภัค  ภานุเดชากฤษ  ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงผลการปฏิบัติงานสำคัญในห้วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 พันเอก เกียรติศักดิ์  ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ในห้วงเดือนมีนาคม 2565 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในการดูแลประชาชน รวมทั้งปฏิบัติภารกิจต่างๆ ให้สอดคล้องและหนุนเสริมคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พลเอก วัลลภ  รักเสนาะ และคณะ ร่วมหารือกับผู้แทนบีอาร์เอ็น นำโดย อุสตาส อาณัติ อับดุลเราะห์มาน ได้พบปะหารือและพูดคุยกันแบบเต็มคณะครั้งที่ 4 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ถึง 1 เม.ย. 65

ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องร่วมกันในความริเริ่มรอมฎอนสันติสุขด้วยการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อสันติสุขในห้วงเดือนรอมฎอน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถปฏิบัติภารกิจทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังได้พูดคุยบทบาทขอบเขตหน้าที่ของคณะทำงานร่วม เพื่อขับเคลื่อนการพูดคุยเกี่ยวกับคณะทำงานร่วมเรื่องการลดความรุนแรง คณะทำงานร่วมเรื่องการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ คณะศึกษาร่วมเรื่องการแสวงหาทางออกทางการเมือง โดยมีการมอบหมายบุคคลผู้ประสานงานเพื่อประสานการปฏิบัติของคณะดังกล่าว เพื่อจะนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างสันติสุขอย่างถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 ส่วนในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ 2 ราย พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) รวม 112,000 เม็ด รวมทั้งร่วมกันขับเคลื่อนโครงการชุมชนบำบัดยาเสพติดต้นแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 37 ตำบลในทุกอำเภอ นอกจากนี้ยังได้ขับเคลื่อนนโยบายของ ผอ.รมน.ภาค 4 ในด้านการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในห้วงเดือนที่ผ่านมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การจิบกาแฟยามเช้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในพื้นที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี, กิจกรรมสืบสานประเพณีลาซัง ในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส, กิจกรรมเกี่ยวข้าวสืบสานประเพณีพหุวัฒนธรรม และกิจกรรมการส่งมอบบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ ในช่วงนี้เป็นห้วงเดือนรอมฎอน มทภ.4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้อวยพรให้พี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามปฏิบัติภารกิจทางศาสนาจนสำเร็จสมความปรารถนาดังที่ตั้งใจไว้ทุกประการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนห้ามซื้อ ขาย ใช้ ประทัด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมที่ทำให้เกิดเสียงดังในพื้นที่ตลอดห้วงเดือนรอมฎอน ตั้งแต่ วันที่ 3 เมษายน 2565 ถึง วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เพื่อเป็นการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง เหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในช่วงเวลาดังกล่าว

 ด้าน นายอำนวย  ศรีระเเก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานด้านการพัฒนาในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้แก่พี่น้องประชาชนทุกมิติ มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการดำเนินงานที่สำคัญหลายด้าน ประกอบด้วย คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ประชุมเพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานการพัฒนาของ ศอ.บต. พร้อมทั้งได้อนุมัติหลักการ 5 โครงการที่ ศอ.บต. นำเสนอ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ อีกทั้งยังได้จับมือจับมือ มูลนิธิรวมพัฒน์ ลงนามความร่วมมือ นำเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นต้นแบบการพัฒนา และฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนใต้ นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามคนไร้สัญชาติหลังได้รับสถานะทางทะเบียนราษฯ ให้สามารถเข้าถึงสิทธิของรัฐได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ศอ.บต. ได้มีโอกาสต้อนรับ คณะเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และ คณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางความ ร่วมมือการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความมุ่งมั่นในการพัฒนาทางด้าน เศรษฐกิจของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข

 ในขณะที่ พันตำรวจโท ภนภัค  ภานุเดชากฤษ ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แถลงสรุปผลคดีที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมาว่า เกิดเหตุก่อความรุนแรง 6 เหตุ อาชญากรรมทั่วไป 13 เหตุ เหตุก่อกวน 18 เหตุ ออกหมายจับป.วิอาญาคดีความมั่นคง จำนวน 16 หมายจับกุม 4 หมาย หลบหนี 12 หมาย จำหน่ายหมายจับคดีค้างเก่า 3 หมาย รวมจำหน่ายหมาย 7 หมาย ออกหมายจับ ตาม พ.ร.ก.ฯ จำนวน 14 หมาย จับกุม 10 หมาย หลบหนี 4 หมาย จำหน่ายหมายค้างเก่า 1 หมาย รวมจำหน่ายหมาย 11 หมาย มีผลคำพิพากษาคดีความมั่นคงของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ และศาลฎีการวม 5 คดี จำเลย 6 คน แยกเป็น จำคุกตลอดชีวิต 3 คน จำคุกไม่เกิน 50 ปี 3 คน และยกฟ้อง 1 คน ซึ่งมีความสำคัญของคดีต่างๆ คือ เหตุลอบวางระเบิดก่อกวนในเขตเทศบาลนครยะลา ระหว่างวันที่ 28 - 29 ม.ค.65 หลังเกิดเหตุ มีการสืบสวนสอบสวน ขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม และขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ ในคดีนี้ จำนวน 8 ราย จับกุม 1 ราย หลบหนี 7 ราย, เหตุแขวนป้ายผ้าและพ่นสีสเปรย์ข้อความ FREE PATANI IS NOT SIAM หลายจุดในพื้นที่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส วันที่ 13 มี.ค.65 จากผลตรวจ DNA มีการขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม จำนวน 2 ราย ผลการซักถามยอมรับว่ารวมกับพวก 3 คน ก่อเหตุแขวนป้ายผ้าจริง และให้การขยายผลถึงผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 ราย และเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา บนถนนสายบาเจาะ - เขื่อนบางลาง ม.4 ต.บาเจาะ อ.บันนังตา จ.ยะลา เมื่อ 30 มีนาคม 2565 ซึ่งในคดีดังกล่าวผลการตรวจพิสูจน์ชุดแผงวงจรระเบิด พบ ดีเอ็นเอ 2 โปรไฟล์ ตรงกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่จังหวัดยะลาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าบุคคลทั้งสองเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ทางกองกำลังตำรวจ จะได้พยายามติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย

 สำหรับคำพิพากษาคดีความมั่นคงมี 2 คดีที่น่สนใจ คือ คดียิงราษฎรเสียชีวิตและลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง หวังฆ่าเจ้าหน้าที่ ที่ร้านขายของชำ ม.4 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ก.ค.59 ศาลจังหวัดนราธิวาส พิพากษาลงโทษ จำคุกตลอดชีวิต 1 ราย และคดีลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 32 ที่บ้านซูโว ม.5 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อ 21 ตุ.ค.55 คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสอง แต่ในอุทธรณ์ศาลพิพากษากลับให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยทั้ง 2 ราย โดยกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้หวังว่าสันติสุขจะกลับมาในพื้นที่โดยเร็ววัน ภายใต้แนวคิด “องค์กรเข้มแข็ง สร้างความยุติธรรม ประชาชนอยู่อย่างปลอดภัย” และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิด “SATU PADU” “เราคือพี่น้องกัน”