ดีเดย์!9 พ.ค.ศาลสงขลานัดฟังคำสั่งไต่สวนคดี"อับดุลเลาะ"ดับปริศนาค่ายทหาร

ดีเดย์!9 พ.ค.ศาลสงขลานัดฟังคำสั่งไต่สวนคดี"อับดุลเลาะ"ดับปริศนาค่ายทหาร





ad1

9 พ.ค. 65 นัดฟังคำสั่งไต่สวนการตาย ณ ศาลจังหวัดสงขลา คดีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร

วันนี้(6พค.65)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดสงขลารัยการไต๋สวนการตายของนายอับดุลเลาะ อีซามูซอ หลังจากมีปมสาเหตุการตายอย่างปริสนาที่สังคมให้ความสนใจและทวงคืนความเป็นธรรม ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค. 65นี้ เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสงขลานัดฟังคำสั่งไต่สวนการตาย ในคดีหมายเลขดำที่ ช.1/2563 กรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ หมดสติหลังจากถูกควบคุมตัวในค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งพบว่ามีอาการสมองบวมและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยคดีนี้ได้มีการสืบพยานรวมทั้งหมด 21 ปาก และใช้เวลาสืบพยานยาวนานกว่า 2 ปี

 คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 20 ก.ค. 2562 นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ได้ถูกควบคุมตัวโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 และถูกส่งตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ทหารระบุว่าพบนายอับดุลเลาะหมดสติอยู่ในห้องควบคุมศูนย์ซักถามของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร นายอับดุลเลาะถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร โรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี และโรงพยาบาลสงขลานรินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามลำดับ โดยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 25 ส.ค. 2562  

 นางสาวซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของนายอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ และ ทนายความได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ โดยต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรมในการแต่งตั้งทนายความช่วยเหลือคดีทั้งทางแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุด

 ที่ผ่านมา คดีนี้ได้มีการสืบพยานจำนวน 21 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารในค่ายอิงคยุทธบริหาร 13 คน พนักงานสอบสวน 1 คน ผู้ที่ถูกควบคุมตัวในห้องที่ติดกับห้องควบคุมของนายอับดุลเลาะในวันเกิดเหตุ 1 คน ผู้แทนจากคณะกรรมาธิการการยุติธรรม การกฎหมาย และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร 1 คน เจ้าหน้าที่ภาคประชาสังคม 1 คน และแพทย์ 4 คน โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 คนซึ่งสืบพยานทางออนไลน์ และมีการเลื่อนนัดสืบพยานหลายนัดจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้คดีนี้ต้องใช้เวลาสืบพยานยาวนานกว่า 2 ปี โดยสืบพยานนัดสุดท้ายเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

  คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมากถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะฯ พร้อมกับคาดหวังให้กองทัพออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ Muslim attorney centre foundation มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม จึงขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ติดตามนัดฟังคำสั่งคดีไต่สวนการตายของ นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ตามวันและเวลาดังกล่าว และร่วมกันทวงถามความเป็นธรรมให้แก่นายอับดุลเลาะและครอบครัว รวมทั้งให้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงเบื้องหลังการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป