อดีตหมู่บ้านเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา ประกาศลั่น “ไม่ขอกลับไปเป็นคนเสื้อแดง"

อดีตหมู่บ้านเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา ประกาศลั่น “ไม่ขอกลับไปเป็นคนเสื้อแดง"





ad1

อดีตหมู่บ้านเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา ประกาศลั่น “ไม่ขอกลับไปเป็นคนเสื้อแดงรับใช้ประชาธิปไตยจอมปลอมอีก” ขอเดินหน้าปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข็ดแล้วกับคำหลอกลวง “สมชัย แสงทอง”เผยวันนี้ได้รับเกียรติและคำเยินยอไม่เหมือนในอดีตที่ถูกตราหน้าว่า “ล้มเจ้าล้มแผ่นดิน”

วันนี้(15 พฤษภาคม 2565) นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ได้เปิดเผยว่า มีนักการเมืองหลายคนมาประสานงานขอให้กลับไปเป็น “คนเสื้อแดง” รับใช้ “ประชาธิปไตยจอมปลอมแฝงด้วยเผด็จการ” เพราะที่ผ่านมาพวกตนถูกหลอกมาหลายครั้งแล้ว ว่าไปเรียกร้องประชาธิปไตยแต่แท้จริงแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังกลับเป็น “เผด็จการเสียเอง” ยิ่งพวกเราคนอีสานจะถูกแกนนำดูถูกเหยียดหยามไม่ยอมให้เป็นผู้นำ หรือ ขึ้นเวที และนำขับเคลื่อนมวลชนแม้ว่ามวลชนที่มาจำนวนมาก ๆ จะเป็นคนอีสานที่พวกตนนำมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ..2552-2553 แต่สุดท้าย กับถูกเผด็จการที่เป็นแกนนำบางกลุ่มสกัด ถ้า “คนเสื้อแดง” มีจิตสำนึกไม่เขาข้างใครคิดดูสิว่า แกนนำ นปช.ที่โดดเด่นเป็น “คนอีสาน” หรือไม่อย่างไร ส่วนแกนนำ นปช.ประจำจังหวัดที่ไม่ปากหวานหรือก้มหัวให้ก็ไม่มีค่ารถ ค่าเดินทาง ต้องใช้งบตนเองจนทำให้หลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ติดหนี้ ไปเสียนามาเสียเมีย แต่แกนนำกลับร่ำรวยไปเรื่อย ๆ เกือบทุกคน ถ้าคนไหนเป็นแกนนำคนอีสานทางแกนนำส่วนกลางจะต่อต้านทันที แต่มวลชนที่มาร่วมชุมนุมส่วนมากจะเป็นคนอีสาน 

นางนิตยา กล่าวอีกว่า วันนี้พวกตนเข็ดขยาดก็ว่าได้เพราะหลายคนที่ติดคุกก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ บางครอบครัวบาดเจ็บและเสียชีวิตกลับถูกปล่อยทิ้ง ขณะที่แกนนำส่วนกลางที่ไม่เคยมีแม้แต่คนอีสานเลยกับเสวยสุข หรือ แม้แต่กระทั่งผู้อยู่เบื้องหลังก็ทำท่าทีเพิกเฉยไม่ออกมาช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่พอจะถึงเวลาเลือกตั้งก็จะมาบอกกล่าว“ปลุกคนเสื้อแดง” อีกครั้งหนึ่ง พี่น้องลองหลับตาคิดดูค่ะว่า ที่ผ่านมาพวกเราเจ็บปวดอย่างไรบ้าง หากย้อนกลับไปถึงการต่อสู้ ปี พ.ศ.2552-2553 แกนนำ นปช.ประจำจังหวัดพากันเงียบหายไปเลย หลังจากการเลือกตั้ง ปี พ.ศ.2554 เพราะคนที่ต่อสู้กันมาในช่วงต้น ๆ กลับถูกปล่อยทิ้งเอาใครไม่รู้มาเป็น ส.ส. มาเป็นรัฐมนตรี หรือตำแหน่งต่าง ๆ ทางการเมือง เขาเหล่านั้นไม่เคยออกมาช่วยเหลือพวกเราเลย

ทางด้าน นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ กล่าวว่า ในช่วงที่พวกเราเดินสาย “เปิดหมู่บ้านเสื้อแดง” ผู้อยู่เบื้องหลังก็จัดเอาวิทยากรลงพื้นที่มาปราศรัยช่วย แต่ล้วนแล้วในการปราศรัยของวิทยากร มีแต่ประเด็น “ล้มเจ้าล้มแผ่นดิน” จนพวกเราถูกตราหน้าว่า “หมู่บ้านเสื้อแดงล้มเจ้า” จะไปไหนมาไหนก็ถูกคนประณามยิ่งกว่าอะไร แต่วันนี้พวกเราเปลี่ยนมา “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ได้รับคำสรรเสริญเยินยอ ได้รับเกียรติจากพี่น้องประชาชนผู้มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่นักการเมืองออกมาเรียกร้องจะให้ “คนเสื้อแดง” กลับไปรับใช้ “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ที่แฝงเอาไว้ “ด้วยเผด็จการเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนพ้องและญาติของตนเอง” ตนรับไม่ได้และจะไม่ให้พี่น้องคนเสื้อแดงที่อยู่กับตนเองกลับไปอย่างเด็ดขาด และขอวิงวอนอยากจะให้นักการเมือง “ยุติความคิดแบบเห็นแก่ตัว เสียเถอะ พอได้แล้ว” อย่าเอาประชาชนไปเป็นตัวประกันต่อรองกับอำนาจของตนเองที่จะไปเป็นใหญ่ในประเทศไทยเลยครับ “ผมขอร้องเถอะครับ พอได้แล้ว”

“...ตอนนี้พวกเราได้เดินสายเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำให้ประชาชนคนไทยมีความสุขกับกิจกรรมที่พวกเราได้ทำ แม้ว่าจะไม่มีเงินหรือจะเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน พวกเราก็มีความสุข โดยเฉพาะชาวเขาชาติพันธ์และประชาชนตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงทำให้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทุกพระองค์ได้แพร่บุญบารมีให้พวกเราได้ทำงานกันอย่างมีสุข และสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแม้ว่าจะเจอวิกฤติกับโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ในการลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องแต่พวกเราก็ผ่านพ้นมาด้วยดี เพราะบารมีของพระองค์ท่าน นายสมชัย กล่าว...”
เสนาะ วรรักษ/รายงาน