"อานนท์"ลุยปักป้ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน 2 อำเภอเมืองศรีสะเกษ(มีคลิป)

"อานนท์"ลุยปักป้ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน 2 อำเภอเมืองศรีสะเกษ(มีคลิป)





ad1

ศรีสะเกษ-"อานนท์"ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นำมวลชนปักป้ายหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ณ ลานสาธารณะบ้านใจดี ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ประกาศลั่น"อยู่อย่างจงรักตายอย่างภักดี"ลุยหนัก พร้อมกัน 2 อำเภอ

อานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย

วันนี้ (8 มิถุนายน 2565) ณ ลานสาธารณะบ้านใจดี ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน นายอนุรักษ์ เพชรอินทร์ นายก อบต.ใจดี นายวิทิศ กลางมณี  กำนันตำบลใจดี ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. และประชาชนร่วมเปิด "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" ตามแนวทางของ “แรมโบ้อีสาน” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ที่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน และ ชนบท มาแสดงพลังเปิดเป็น “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามสโลแกนที่ว่า “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี อีสาน-ล้านนา-อโยธยา- อันดามัน"ทั่วประเทศไทย

หลังจากนั้นคณะได้เดินทางไปยัง บ้านปอแก้ว ต.ปอแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากรอเปิด "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" โดยกิจกรรมดังกล่าว นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทยร่วมเปิด "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" ของ 2 อำเภอ จำนวน 23 หมู่บ้าน มีการบรรยายความเป็นมาของประเทศไทย "ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ เราจะมีแผ่นดินไทยอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร"

กิจกรรมการมอบป้าย "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" ให้ตัวแทนหมู่บ้านทั้ง 23 หมู่บ้าน เสร็จแล้วพากันแห่ป้ายหมู่บ้านไปยังทางเข้าหมู่บ้านเพื่อทำพิธีตอกตะปูติดตั้งป้าย พร้อมได้ประกาศให้เป็น "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" ประชาชนส่งเสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วอำเภอ ขอ "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี"

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ไทย คงไม่มีพื้นที่ให้ "คนรุ่นใหม่" ได้มีผืนแผ่นดินไทยได้อาศัยอยู่เหมือนอย่างทุกวันนี้ ตนรู้สึกภาคภูมิใจที่ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใครมาก่อน ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนถึงรุ่นเรา และเด็กรุ่นใหม่ ได้มีผืนแผ่นดินไทย ที่อยู่อาศัยทำกินและดำรงชีวิตได้มาจนถึงทุกวันนี้

เพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง ให้ทุกคนมีอิสระทางความคิดซึ่งแตกต่างจากเด็กรุ่นเก่ากับเด็กรุ่นใหม่จึงมีวิธีคิดที่ต่างกันออกไป ซึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล และวิจารณญาณ และการอบรมสั่งสอนบอกเล่าของคนในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนควรศึกษาให้ชัดเจนถ่องแท้ คนที่จะบอกเล่าและถ่ายทอดได้ดีที่สุดต้องเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุดและต้องรู้จริงเรื่องราวต่างๆ จึงจะสืบทอดต่อไป เด็กรุ่นใหม่จึงจะเข้าใจถึงความเป็นมาของสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น นายอานนท์ กล่าว

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน