“อนุทิน” ชี้เตรียมพร้อมโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ไม่ประกาศถอดหน้ากาก

“อนุทิน” ชี้เตรียมพร้อมโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ไม่ประกาศถอดหน้ากาก แต่ให้ยึดแนวทาง 2U พิจารณาพื้นที่เสี่ยงด้วยตัวเอง ชี้มาถึงจุดนี้ได้ เพราะระดมวัคซีนให้ประชาชน พร้อมโต้แพทย์ชนบท ไม่มีใครปัญญาอ่อนเอาวัคซีนไปทิ้ง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในงาน Meet the press "Move on จากโควิด ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ" เตรียมความพร้อมรับมือโรคโควิด-19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น โดยระบุว่า สื่อมวลชนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชน จึงขอให้ย้ำเตือนประชาชน ให้เข้าใจ และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย

โรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่า ความรุนแรงโรคจะลดลง แต่หมายถึงเป็นโรคที่จะอยู่กับเราในทุกๆ ช่วงชีวิต และเราต้องอยู่กับโรค จนทำให้เรามีความคุ้นชิน และต้องปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย ภายใต้มาตรการ 2 U คือ Universal Prevention การป้องกันโรค ทั้งเว้นระยะห่าง ล้างมือ ซึ่งยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และยังช่วยป้องกันโรคจากระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหารได้ด้วย

ขณะเดียวกัน มีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติสุขให้ประชาชนมากที่สุด มีการพูดถึงการเปิดหน้ากากอย่างเสรี ไร้ข้อจำกัด ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจของแต่ละสถานการณ์ หากไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งคงไม่มีประกาศออกมาอย่างชัดเจน แต่ให้ประเมินสถานการณ์เสี่ยงด้วยเองได้

Universal Vaccination คือ ขอความร่วมมือให้มารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกันให้ประชาชนมีความปลอดภัยกับการใช้ชีวิตภายหลังที่โรคโควิด-19 ในประเทศไทยเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น แม้ตอนนี้จะยังมีคนจำนวนมาก ไม่ได้รับวัคซีนตามที่สมควรจะได้รับ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ สธ. ต้องเร่งรณรงค์ต่อไป เพื่อให้ยอดผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้วัคซีนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ที่มาถึงจุดนี้ได้ เพราะได้รับวัคซีนกันอย่างถ้วนหน้า ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และวัคซีนทุกชนิดเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐานทั้งหมด

บางคนบอก วัคซีนเป็นวัคซีนเหลือ วัคซีนเกิน วัคซีนขยะ เอาไปทิ้งไว้บ้านคนอื่น แต่ข้อเท็จจริงเพียงเอาไปไว้ในเครือข่าย สธ. เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างใกล้ชิด ไม่มีใครปัญญาอ่อนจะเอาวัคซีนไปทิ้ง เพราะเป็นสิ่งที่มีค่า ช่วยให้ประชาชนปลอดภัย ลดความเสี่ยงติดเขื้อโควิด ลดความเสี่ยงจากอาการหนัก และเสียชีวิต

ฝากปลัดสธ. อธิบายคนในสังกัด ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็เชิญตัวมาอธิบายให้เข้าใจ ถ้าคนในยังไม่เข้าใจ คงไม่สามารถไปอธิบายสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนได้ พร้อมเปรียบกระทรวงสาธารณสุข เป็นเสมือนวงออร์เคสตราวงใหญ่ ใครไม่ปรับคีย์เครื่องดนตรี เล่นไม่เข้าพวก ก็ต้องออกจากวงไป พร้อมย้ำว่า ถ้าผ่อนคลายแล้ว ประชาชนเป็นอะไรขึ้นมา ทาง สธ. ก็พร้อมที่จะรับมือและดูแลประชาชน.