ชาวบ้านเมืองขอนแก่นเผยชายเร่ร่อนคลั่งจับตัวประกันเป็นคนดี พูดจาเพราะ ถ่อมตน

ชาวบ้านเมืองขอนแก่นเผยชายเร่ร่อนคลั่งจับตัวประกันเป็นคนดี พูดจาเพราะ ถ่อมตน





ad1

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุจับตัวประกัน ชาวบ้านที่เคยรู้จักเป็นคนดี พูดจาไพเราะ นอบน้อม ถ่อมตน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายได้รับบาดเจ็บและช่วยเหลือตัวประกันมาได้อย่างปลอดภัย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ค.2565 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า สำหรับผู้ที่ก่อเหตุนั้นขณะนี้ย้งไม่สามารถสอบปากคำผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากอาการยังสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในการดูแลขอแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น หลังจากถูกคมกระสุนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 (S.W.A.T)เข้าที่ลำคอทะลุออกท้ายทอย เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลผู้ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทราบข้อมูลจากการลงพื้นที่ว่าเป็นชายเร่ร่อนไม่ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่ได้ชื่อสุนทรแต่อย่างใด โดยชายที่ชื่อสุนทรเบื้องต้นตรวจสอบแล้วมีตัวตนจริงและยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ จ.สกลนคร

" และในส่วนของระเบิดที่ผู้ก่อเหตุถืออยู่นั้นคือระเบิดลูกเกลี้ยง M61(อ่านว่า เอ็ม-หก-หนึ่ง) เป็นระเบิดจริงและสามารถใช้งานได้จริง หากผู้ก่อเหตุถอดสลัดแล้วปาไปก็จะเกิดการระเบิดสร้างความเสียหายขึ้นทันที แต่ในส่วนของที่มาของระเบิดM61ลูกนี้ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกันและภายหลังจากที่ทางแพทย์ทำการรักษาจนชายเร่ร่อนสามารถให้การได้ ทางพนักงานสอบสวนก็จะทำการสอบปากคำดำเนินคดีในเบื้องต้น 3 ข้อหา คือ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ความผิดตามพรบ.อาวุธปืน และความผิดตาม พรบ.วัตถุระเบิด ตามขั้นตอนต่อไป"

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องที่ประชาชนแจ้งเหตุลักทรัพย์นั้น เบื้องต้นตำรวจได้เข้าตรวจสอบตามที่ชาวบ้านแจ้งมา เมื่อไปถึงได้ทำการตรวจค้นรถเข็นและของที่อยู่ในรถเข็นของชายเร่ร่อนยังไม่พบความผิดปกติอะไร แต่พอขอตรวจค้นกระเป๋าชายเร่ร่อนจึงแสดงอาการมีพิรุธไม่ยอมให้ตรวจค้น และหยิบเอาระเบิดขึ้นมาขู่ไล่ตำรวจเปิดทางหนี และจับเอาหญิงภรรยาเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์มาเป็นตัวประกัน ทางตำรวจได้ทำการเกลี่ยกล่อมแล้วแต่ไม่เป็นผล ซึ่งในจังหวะที่เจ้าหน้าที่ส่งซิกให้ตัวประกันวิ่งเกิดสะดุดล้ม ซึ่งมีชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ส่งเสียงให้รีบลักขึ้นหนีจากชายเร่ร่อน ทำให้ชายเร่ร่อนได้ยินเสียงหันมาดูแล้วทำท่าง้างมือจะปาระเบิดใส่ตัวประกัน ทางตำรวจจึงตัดสินใจยิงใส่ชายเร่ร่อนทันทีเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายกับตัวประกัน ซึ่งในกรณีนี้อยากจะฝากถึงชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุแบบนี้ให้อยู่ภายในบ้านและปิดล็อคมิดชิดเพื่อความปลอดภัย และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจเท่านั้น เพราะเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต หากชายเร่ร่อนเกิดคลุ้มคลั่ง เนื่องจากเครียดเพราะมีคนมามุงดูอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ นางไพรัตน์ พงษ์สิงห์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองก็เห็นชายเร่ร่อนถูกตำรวจขอค้น จากนั้นได้วิ่งข้ามถนนมาฝั่งร้านตนเอง ก่อนที่ตำรวจจะบอกให้บ้านทุกหลังปิดร้าน เพราะเนื่องจากชายเร่ร่อนจะพยายามหาตัวประกัน แต่บ้านทุกหลังได้ปิดก่อนที่ชายเร่ร่อนจะไปร้านแซ่มรถจักรยานยนต์ เพราะร้านยังเปิดให้บริการ ก่อนจะจับหญิงวัย 52 ปี เป็นตัวประกันและถูกตำรวจยิงสกัดภายหลัง ชายเร่ร่อนคนดังกล่าวตนเองเห็นหน้ามาประมาณ 2 ปี และจะมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ โดยจะซื้อน้ำกับกาแฟกระป๋องเป็นส่วนใหญ่ เมื่อไม่มีเงินก็จะขอเซ็นไว้จากนั้นก็จะมาจ่ายเงิน ไม่เคยซื้อสุราไปดื่มเหมือนคนเร่ร่อนรายอื่น ส่วนสำเนียงที่พูดจะเป็นภาษากลางไม่ใช่ภาษาอีสาน ส่วน
           
ขณะที่ น.ส.อมรรัตน์ ตั้งภิรมย์ เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ชุมชนเทพารักษ์ กล่าวว่า ชายเร่ร่อน เป็นลูกค้าประจำร้านตนเองนานกว่า 1 ปี ซึ่งจะนำขวด พลาสติก กระดาษ มาขายให้ และจะมีบางครั้งจะหายไปประมาณ 2 ถึง 3 วันก็จะกลับมา พร้อมสิ่งของที่มาขาย ซึ่งชายเร่ร่อนเวลามาขายจะพูดจาดีมีครับตลอดเวลา จะไม่เหมือนคนเร่ร่อนรายอื่นๆที่จะมีอาการเมามา และจะพูดไม่เพราะ หลังจากที่ทราบข่าวตนเองก็ตกใจเช่นกัน และยิ่งเหตุมีวัตถุระเบิดทำให้ตนเองก็ต้องระมัดระวังตัวกับกลุ่มคนเร่ร่อน ที่นำของรีไซเคิลมาขาย