เนื้อแพง!สพฐ.สั่งรร.ในสั่งกัดทำเมนูมังสวิรัติมื้อกลางวันอ้างลดเบียดเบียนสัตว์ช่วงเข้าพรรษา

เนื้อแพง!สพฐ.สั่งรร.ในสั่งกัดทำเมนูมังสวิรัติมื้อกลางวันอ้างลดเบียดเบียนสัตว์ช่วงเข้าพรรษา





ad1

ชาวเน็ตเดือดรุมกระหน่ำด่าสพฐ.ทำกับเด็กลงคอได้อย่างไง สั่งโรงเรียนในสังกัดให้ปรุงอาการมังสวิรัตให้เด็กทานมื้อกลางวันเพื่อลดการเบียดเบียนสัตว์ช่วงเข้าพรรษา ชี้เด็กควรบริโภคอาหารครบ 5 หมู่

เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "นักเรียนเลว" เผยแพร่หนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการรับประทานอาหารมังสวิรัติ ในช่วงเข้าพรรษา "กินดี มีบุญ เข้าพรรษา 2565" ถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า " สพฐ.ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงโรงเรียนในสังกัดให้ทำอาการมังสวิรัตเป็นมื้อกลางวันเพื่อลดการเบียดเบียนสัตว์ช่วงเข้าพรรษา

สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการรับประทานมังสวิรัติช่วงเข้าพรรษา โดยให้โรงเรียนประกอบอาหารมังสวิรัตและรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นมื้อกลางวันในวันพระ หรือวันที่โรงเรียนกำหนด รวมจำนวน 9 มื้อ

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของกิจกรรมดังกล่าวถูกระบุไว้ว่า เพื่อลดการเบียดเบียน ส่งเสริมและปลูกฝังความเมตตาต่อสัตว์ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งให้โรงเรียนที่เข้าร่วมจัดทำรายงานผลกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วย ชื่อเมนูอาหาร รูปภาพอาหารที่เสร็จเรียบร้อย ส่วนผสม วิธีปรุงอาหาร และผลจากการรับประทานอาหารมังสวิรัติของนั

ปรากฎว่ามีชาวเน็ตออกมาโจมตีกระทรวงศึกษาธิการจำนวนมาก ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมนี้ เพราะเด็กควรบริโภคอาหารครบ 5 หมู่ อีกทั้งแต่ละโรงเรียนก็ไม่ได้มีแต่ชาวพุทธอีกด้วย ถ้าจะทำก็ควรทำกันเอง ไม่ใช่มาบังคับโรงเรียนและนักเรียน เป็นต้น

ขณะที่เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความอ้างอิงจากเว็บไซต์ 84000.org ระบุว่า "พระพุทธเจ้ามิได้ทรงห้ามภิกษุฉันเนื้อสัตว์เลย แม้พระองค์เองก็เสวยเนื้อสัตว์ที่มีผู้ปรุงถวาย แต่จะไม่เสวยและฉันเนื้อที่ไม่บริสุทธิ์โดยส่วน ๓ คือที่ได้เห็น ได้ยิน และที่รังเกียจกับเนื้อต้องห้าม ๑๐ อย่าง มีเนื้อมนุษย์เป็นต้น ตามที่ได้กล่าวแล้วในปัญหาข้อต้นๆ

เพราะถ้าทรงห้ามแล้ว พระองค์ก็คงจะไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุฉันปลาและเนื้อตามที่พระเทวทัตทูลขอวัตถุ ๕ ประการแล้ว

นั่นคือ พระเทวทัตขอมิให้ภิกษุฉันปลาและเนื้อจนตลอดชีวิต แต่พระพุทธองค์มิได้ทรงอนุญาตตามที่ท่านพระเทวทัตขอ

เพราะฉะนั้นจึงเป็นอันว่าภิกษุฉันปลาและเนื้อได้ หรือท่านใดไม่ฉันก็ได้ ใครพอใจอย่างใดก็ทำอย่างนั้น

แม้พุทธบริษัท หรือใครก็ตาม พระองค์ก็มิได้ทรงห้ามการกินปลากินเนื้อ ทรงสอนแต่มิให้ฆ่าสัตว์เองหรือสั่งให้ผู้อื่นฆ่าเท่านั้น แต่มิได้ทรงห้ามไปถึงการกินปลากินเนื้อที่มิได้ฆ่าเอง หรือสั่งเขาฆ่าเพื่อตน เพราะการฆ่าหรือการสั่งให้เขาฆ่า ไม่ว่าจะเพื่อกินเองหรือเพื่อเอาไปทำบุญถวายพระ ก็เป็นบาปกรรมล่วงศีลข้อปาณาติบาตทั้งสิ้น

ในอามคันธสูตร อรรถกถาก็ได้เล่าถึงดาบสพวกหนึ่งที่ถือว่า ปลาและเนื้อเป็นกลิ่นดิบ ไม่ควรบริโภค แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ปลาและเนื้อไม่ใช่กลิ่นดิบ แต่กิเลสทั้งปวงที่เป็นบาปเป็นอกุศลต่างหาก ชื่อว่าเป็นกลิ่นดิบ

สรุปว่า: พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงห้ามการฉันปลาและเนื้อ ทั้งพระองค์และภิกษุก็ฉันปลาและเนื้อที่เป็นกัปปิยะ คือไม่ผิดวินัยบัญญัติ เป็นของสมควรบริโภค อันได้แก่ปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม อันได้กล่าวมาแล้ว กับไม่ฉันเนื้อที่ต้องห้าม ๑๐ ชนิด เว้นจากนี้แล้วก็ฉันได้ ไม่มีข้อขัดข้องประการใด"