ผัวโหดฆ่าเมียเศรษฐินี อำพรางศพ หวังฮุบมรดกเกือบ 100 ล้าน

ผัวโหดฆ่าเมียเศรษฐินี อำพรางศพ หวังฮุบมรดกเกือบ 100 ล้าน





ad1

นครปฐม-ฆ่าเมียเศรษฐินี อำพรางศพ หวังฮุบมรดกเกือบ 100 ล้าน บุกอายัดศพในวัด แฉพิรุธ ผลชันสูตรสวนทาง เผยเป็นต่างด้าว หนีเข้าเมือง สวมบัตร ใช้ชื่อปลอม

วันที่ 25 ก.ค.65 ที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม, ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว ร่วมกันแถลงจับกุม นายสุชิน ไม้ชัยมงคล หรือนายจิงกวง เฉิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 235/2565 ลงวันที่ 18 ก.ค.65 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

พร้อมของกลาง เครื่องหนีบผมพร้อมสายไฟ 1 ชุด เซิร์ฟเวอร์บันทึกข้อมูลภาพกล้องวงจรปิด ชุดกล้องวงจรปิดไร้สาย 360 องศา พร้อมเมมโมรี่การ์ด 1 ชุด ตลับพลาสติกสีแดง-ดำ 1 ตลับ แฟลตไดร์ฟ 16 GB สีดำ 2 อัน ราวผ้าม่าน 2 ราว

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นางญาณนันท์ แก้วพิมล ได้เดินทางมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.ปารวี เฉิน อายุ 39 ปี ภรรยาของ นายสุชิน โดย นางญาณนันท์ กล่าวว่า รู้จักกับ น.ส.ปารวี มาประมาณ 3 ปี ซึ่ง น.ส.ปารวี เคยเล่าเรื่องที่ถูก นายสุชิน สามี ทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ และได้พูดอีกว่า ถ้าหากตนเป็นอะไรไปก็ต้องเป็น นายสุชิน ที่เป็นคนทำร้าย และร้องขอให้ นางญาณนันท์ เป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษให้ด้วย

ต่อมาวันที่ 14 ก.ค.65 เวลาประมาณ 03.00 น. น.ส.ปารวี ถูกส่งตัวไปรักษาที่ ร.พ.วิชัยเวช อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร โดย นายสุชิน ได้แจ้งกับโรงพยาบาลว่า น.ส.ปารวี พยายามผูกคอตายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้น นายสุชิน ได้นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดคลองอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยแจ้งกับเพื่อนๆ ทุกคนว่า น.ส.ปารวี กินยาลดความอ้วน ดื่มสุราและเสพกัญชาจนเสียชีวิต

ซึ่งพฤติการณ์ของ นายสุชิน นั้น เร่งรีบอย่างผิดปกติ มีการบรรจุศพใส่โลงศพ โดยไม่มีการรดน้ำศพ และไม่มีผู้ใดเห็นสภาพศพ ซึ่งผู้แจ้งกับพวกติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.ปารวี เป็นที่สงสัยว่าน่าจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้สืบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จากนั้นตำรวจจึงได้เดินทางไปยังวัดคลองอ้อมใหญ่ ที่มีการประกอบพิธีสวดได้เพียง 2 คืน เพื่อทำการอายัดศพไปชันสูตรใหม่

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เผยต่อว่า จากนั้นได้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้ พ.ต.อ.รณภพ พรอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน, พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน นอกจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ยังมีการอายัดศพไว้ด้วย

ต่อมาในวันที่ 18 ก.ค.65 เวลา 17.00 น. พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว ติดตามจับกุมตัว นายสุชิน ได้ที่บริเวณภายในวัดคลองอ้อมใหญ่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และได้ส่งตัวฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางนครปฐม

ทั้งนี้ในวันที่ 21 ก.ค. พนักงานสอบสวนได้รับผลการตรวจชันสูตรพลิกศพจาก รพ.ศิริราช โดยรายละเอียดสำคัญในรายงาน มีความขัดแย้งกับคำให้การของ นายสุชิน ซึ่งมีพยานหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่า น.ส.ปารวี ถูก นายสุชิน ฆาตกรรม ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ นายสุชิน ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี

สำหรับสาเหตุในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายสุชิน มีปัญหาขัดแย้งกับ น.ส.ปารวี มาโดยตลอด ประกอบกับต้องการประสงค์ต่อทรัพย์และมรดกของ น.ส.ปารวี เนื่องจากทั้งสองคนเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรส ประกอบธุรกิจเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องสำอางบริษัทสวยดี เซ็นเตอร์ ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม และรู้ความเคลื่อนไหวด้านการเงินของธุรกิจเป็นอย่างดี มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ถือเป็นเศรษฐีรายหนึ่งของ จ.นครปฐม

และเนื่องจาก นายสุชิน เป็นต่างด้าวชาวจีน หลบหนีเข้าเมือง เคยถูกจับเกี่ยวกับหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาก่อน และปลอมแปลงสวมบัตรประชาชน จนมีคดีความ หนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล หนีออกต่างประเทศ และหลบเข้ามาใหม่ โดยมีการใช้ชื่อปลอม ใช้บัตรประชาชนคนไทย ทั้งนี้ ตร.จะหาที่มาที่ไป และตรวจสอบภาษีและรายได้ของโรงงานดังกล่าว ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่