เตือนภัย!สองตายถูกแก๊งอ้วนผอมขับรถจี้ท้ายก่อนแซงโบกให้จอดข่มขู่รีดเงิน 5 พัน

เตือนภัย!สองตายถูกแก๊งอ้วนผอมขับรถจี้ท้ายก่อนแซงโบกให้จอดข่มขู่รีดเงิน 5 พัน





ad1

ขอนแก่น-สองตายายถูกแก๊งตบทรัพย์อ้วนผอม ขับรถยนต์กระบะจี้ท้ายให้หลบ ก่อนจะหักหลบลงเลนซ้ายมีรถยนต์กระบะวีโก้อีกคันสะกิดท้ายรถแล้วแซงขึ้นมาโบกให้จอด ก่อนลงมาโวยวายข่มขู่เรียกเอาเงิน 5,000 บาท แจ้งตำรวจไปก็ไม่มาตรวจสอบจึงยอมจ่ายไป 1,500 บาทแลกับการไม่ถูกทำร้ายร่างกาย

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียแลัเพจต่างๆทีวทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Nitinai Civil " ที่ได้มีการโพสต์เตือนภัยแก๊งค์ตบทรัพย์พร้อมข้อความระบุว่า "พ่อกับแม่ผมเอง  ได้ขับรถเดินทางมุ่งหน้าไป อ.แก้งคร้อ บนถนนสาย มัญจาคีรี-แก้งคร้อ ถึงบริเวณ บ้านเขวา บ้านขุมดิน มีรถกระบะแคปสีขาวขับมาปาดหน้าและโบกมือให้จอด พ่อจึงจอดถามจากในรถว่าเกิดอะไรขึ้น มีผู้ชายในรถ 2 คน  ลงมาต่อว่า ว่าพ่อได้ขับรถเฉี่ยวชน ลงมาโวยวายอย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคาย

แม่และพ่อตกใจจึงลงไปเจรจาพบว่าด้านหลังกระบะด้านซ้ายมีรอยเฉี่ยวชนเล็กน้อย ซึ่งพ่อบอกภายหลังคิดว่ารถตกหลุมเฉยๆทำให้รถสะบัดเล็กน้อย   ทางผู้ชายคนแรกลงมาจะพูดจาก้าวร้าวข่มขู่ เรียกเงินจำนวน 5,000 บาท แต่แม่บอกว่ามีแค่ 500 มันจึงข่มขู่ถึงขั้นจะจัดการให้นอนอยู่ในป่าไม่ให้กลับบ้าน คนแก่อายุจะ 70 แล้วมันยังกล้าขู่แบบนั้น ส่วนคนที่ 2 เดินลงมาพูดดี แล้วตะล่อมถามว่ามีเงินเท่าไหร่จะต่อรอง กับเพื่อนที่มาด้วยกันให้  ขอ 3,500 ได้มั้ย ถ้าไม่มีให้ญาติโอนมาให้ก่อนก็ได้  แม่จึงบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่ 1,500 บาท มันจึงรีบเอาเงินแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว"

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายสมัย มหัทธะศิลา อายุ70 ปี และ นางวิลาวรรณ มหัทธะศิลา  อายุ 69 ปี สองสามีภรรยา ชาว จ.ขอนแก่น ที่ถูกรถเฉี่ยวชนบนถนนสายมัญจาคีรี-โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น

นายสมัย มหัทธะศิลา อายุ70 ปี กล่าวว่า  ในวันเกิดตนและภรรยาจะไปทำธุระที่ อ.วังสามหมอ จ.ชัยภูมิ  โดยขับขี่รถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บบ-5642 ขอนแก่น ออกจากบ้านจากในเมืองขอนแก่น แต่ในช่วงที่ขับรถออกจากมัญจาคีรี มุ่งหน้าไป อ.โคกโพธิ์ไชย   อยู่บนถนนในช่วงบ้านเขวา-บ้านขุมดิน มีรถยนต์กระบะสีบรอนด์ ยี่ห้อโตโยต้าแคป ขับอยู่ข้างหน้า จึงขับรถแซงขึ้นไป ขณะแซงก็มีรถกระบะโตโยต้าสีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับจี้หลังมา  จึงเหยียบคันเร่งแซงรถยนต์กระบะคันที่วิ่งอยู่เลนซ้าย จังหวะแซงรู้สึกเหมือนรถตกหลุม  แต่หลังจากแซงได้ประมาณ 100 เมตร รถกระบะคันที่ถูกแซงมา ได้ขับปาดหน้า โบกมือให้จอด จึงจอดรถข้างทาง

“หลังจอดรถ มีชาย รูปร่างอ้วน ที่นั่งข้างคนขับลงจากรถ และตามด้วยชายรูปร่างผอมสูง ทั้งสองคนอายุ ประมาณ 40 ปี เดินมาหาพร้อมกับพูดว่า ชนแล้วหนีทำไม ด้วยความงุนงง จึงลงจากรถไปคุยกับชายทั้ง2 คน  โดยชายรูปร่างผอม ด่าทอและพูดจาหยาบคาย ทั้งยังบอกว่า ถ้าเป็นผู้ชายต้องตายเป็นศพอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ชายอ้วนบอกว่า ชนแล้วไม่ต้องหนี เพียงแค่จ่ายเงินมาให้ 5,000บาท ก็จบกันไป  ภรรยาจึงบอกว่า มีเงินเพียง 500 บาท แต่ชายสองคนไม่ยอม และบอกจะแจ้งตำรวจ แต่รอตำรวจอยู่นานก็ไม่มา ซึ่งช่วงที่รอตำรวจก็ถูกชายรูปร่างผอมข่มขู่ต่างๆนานา และต่อรองเรื่องเงินมาที่ 3,500บาท 2,500 บาท สุดท้ายชายสองคนขอเงิน 1,500 บาท  จึงยอมจ่ายให้ เมื่อชาย 2 คนได้เงินก็ขับรถไปทันที”

นายสมัย  กล่าวอีกว่า จากการดูรถกระบะของชายทั้ง 2คน พบว่า ที่บริเวณแก้มซ้ายของรถ มีรอยชนยุบ คล้ายเกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้ง แก้มขวาก็มีรอยชนเช่นกัน  จึงฉุกคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นการกระทำของแกงค์ตบทรัพย์ ที่รวมตัวเป็นมิจฉาชีพ เห็นผู้สูงอายุ ขับมาจึงขับรถเฉี่ยวเพื่อตบทรัพย์  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพียงแค่บอกลูกชายให้ทราบและแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ระวังแก๊งค์ตบทรัพย์ที่อาจจะก่อเหตุ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้