ชาวขอนแก่นโวย ตัวแทนประกันชีวิตชื่อดัง ยักยอกเงินกว่า1ล้านบาท

ชาวขอนแก่นโวย ตัวแทนประกันชีวิตชื่อดัง ยักยอกเงินกว่า1ล้านบาท





ad1

ขอนแก่น-ชาวขอนแก่นโวย ตัวแทนประกันชีวิตชื่อดัง ยักยอกเงินกว่า1ล้านบาท  หลังรับเงินเบี้ยประกันชีวิตจากกลุ่มผู้เสียหายไปแล้ว แต่กลับไม่นำส่งต่อให้บริษัทฯ ทำให้ได้รับความเสียหายหลายสิบคน

ที่บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด สาขา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นางวารุณี แปกลาง อายุ 49 ปี ชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นำผู้เสียหาย รวม 10 คน เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมกับผู้จัดการ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด สาขา อ.มัญจาคีรี พร้อมกับขอเอกสารหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางบังออน มิขุนทด อายุ 65 ปี ตัวแทนบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด สาขา อ.มัญจาคีรี หลังจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้สมัครทำประกันชีวิตกับทางบริษัทฯ  นางบังออนจำนวนหลายกรมธรรม์ โดยจ่ายเบี้ยประกันชีวิตให้กับนางบังออน เพื่อให้นำส่งต่อให้กับบริษัทฯ ต่อมาทางผู้เสียหายเริ่มพบพิรุธว่า นางบังออน รับเงินเบี้ยประกัน ไปแล้วแต่กลับไม่ได้ส่งต่อให้บริษัทฯ มาตั้งแต่ปี 2560 และยังมีการเรียกเก็บเบี้ยประกันฯ จากกลุ่มผู้เสียหายเรื่อยมา

นางวารุณี กล่าวว่า  กลุ่มผู้เสียหายจึงได้รวมตัวกันติดตามทวงถาม ครั้งแรก ในวันที่ 9 ส.ค.ที้ผ่านมาซึ่งนางบังออน ได้ยอมรับว่า ไม่ได้ส่งเบี้ยประกันให้กับบริษัทฯ จริง รวมมูลค่าความเสียหายเฉพาะของผู้เอาประกันฯที่เดินทางมาวันนี้ รวมกว่า 1,800,000 บาท จากผู้เสียหายทั้งหมดที่มีอยู่เกือบ 20 คน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงว่า นางบังออน จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ภายใน 3 เดือน

"แต่จนถึงขณะนี้นางบังออน ก็ยังเพิกเฉย กลุ่มผู้เสียหายจึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากผู้จัดการฯ โดยจากการเข้าพบ ผู้จัดการชี้แจงว่า จะต้องรวบรวมหลักฐานต่างๆ และแจ้งให้บริษัทใหญ่รับทราบ เพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป จากนั้น กลุ่มผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นเอกสารการสมัครเป็นลูกค้าผู้เอาประกันฯ เดินทางไปยัง สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางบังออนหลังจากไม่ทำตามข้อตกลงที่รับปากกับทางกลุ่มผู้เสียหายไว้"

นางวารุณี กล่าวต่อว่า ครอบครัวตนเองได้สมัครสมัครทำประกันชีวิต ให้ลูกคนแรกกับนางบังออน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2547 จำนวนเงินเอาประกัน 300,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 20,400 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 1 ต.ค.2567 จากนั้นได้ทำประกันฯ ให้กับลูกคนที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2550 จำนวนเงินเอาประกัน 150,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 10,200 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 1 ส.ค.2570 และประกันให้กับมารดา เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2549 จำนวนเงินเอาประกัน 200,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 16,980 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 24 เม.ย.2581 ซึ่งในช่วงปีแรกๆ ของการสมัครและประกันคุ้มครองก็ไม่มีความผิดปกติใดๆ เวลาที่ลูกทั้ง 2 คน และมารดาเจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก็นำเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายมาทำเรื่องเบิกกับนางบังออน ได้ตามปกติ โดยนางบังออน เป็นคนดำเนินการให้ แต่ทุกครั้งที่ตนเองสอบถามหาใบเสร็จรับเงินจากนางบังออนก็จะได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

"จนกระทั่งในปี 2560 เริ่มมีชาวบ้านคนอื่นๆ ที่เป็นลูกค้า ทราบว่า นางบังออนไม่ได้ส่งเบี้ยประกันที่ลูกค้าจ่ายให้ ให้กับบริษัทฯจึงเริ่มมีการตั้งกลุ่มพูดคุยกันถึงความผิดปกติซึ่งชาวบ้านที่เป็นลูกค้าทุกคนต่างก็ไม่เคยได้รับใบเสร็จรับเงินแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งเวลาที่จ่ายเบี้ยประกันก็มีทั้งคนที่จ่ายเป็นเงินสดและโอนเข้าบัญชีนางบังออนด้วย เมื่อทราบแน่ชัดว่านางบังออนไม่ได้นำส่งเงินเบี้ยประกันให้ผู้เสียหายที่เป็นลูกค้าทำประกันกับนางบังออนนับตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งมีกว่า 20 คน จึงเกิดความไม่มั่นใจว่า ประกันที่ทำไว้จะคุ้มครองตามกฎหมายและเงื่อนไขของบริษัทฯ หรือไม่ หรือสถานะสิ้นสภาพไปแล้ว โดยที่ทางผู้เสียหายไม่ทราบเรื่อง ทั้งๆ ที่ได้มีการชำระเบี้ยประกันมาโดยตลอด ซึ่งหากการทำประกันฯ ของกลุ่มผู้เสียหายสิ้นสภาพกรมธรรม์ จะทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,850,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเฉพาะของผู้เสียหายที่เดินทางมาวันนี้เท่านั้น"

นางวารุณี กล่าวอีกว่า  กลุ่มผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องเรียนกับบริษัท ไทยประกันชีวิตฯ และเรียกร้องให้นางบังออน รับผิดชอบทำกรมธรรม์ให้คืนสภาพ หากคืนไม่ได้ ให้ชดใช้ตามจำนวนวงเงินที่ทำประกัน ต้องการให้สำนักงานคณะกรรมกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหาย และต้องการให้สังคมทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากยังมีอีกหลายคนที่ถูกกระทำแต่ยังไม่ได้เดินทางมาร้องเรียนอีกจำนวนมาก