ชาวพุทธสุดสลด!ภาพว่อโซเชียล พระแต่งกายเป็นฆราวาส อยู่คู่กับหญิงสาว

ชาวพุทธสุดสลด!ภาพว่อโซเชียล พระแต่งกายเป็นฆราวาส อยู่คู่กับหญิงสาว





ad1

อุทัยธานี-ภาพว่อโซเชียล!!พระแต่งกายเป็นฆราวาส อยู่คู่กับหญิงสาว ชาวบ้านถ่ายภาพได้ ขณะนี้ไม่พบพระองค์ดังกล่าวที่วัดแล้ว ติดต่อไม่ได้หายตัวปริศนา 

ข่าวได้รับการเปิดเผยจากทางเฟสบุ๊ค ที่มีชาวบ้านรายหนึ่งได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ โดยจับใจความว่า ประกาศนะครับทุกท่าน ไอ้หมอนี่มันไม่ใช่พระ ผมกับพรรคพวกชาวบ้าน ติดตามดูมันมาสักพักใหญ่ๆ มันอยู่กินกับเมียชาวบ้าน ที่เชียงใหม่ มันไม่เคยอยู่วัด มันสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ศาสนา และชาวบ้านวัดหนองตายาย เป็นอย่างมาก มันไม่ได้มียศ ไม่มีตำแหน่ง เป็นพระธรรม ตามที่มันอ้าง พวกเราชาวบ้านทุกคนต้องช่วยกันกำจัดมารศาสนา เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่มันเอาไป มันต้องเอามาคืนวัด ผมในฐานะชาวการุ้ง ขอร่วมมือกับชาวบ้านทุกคนครับ ช่วยกันแชร์ครับพี่น้องชาวการุ้ง ช่วยกันแชร์ครับเราชาวการุ้ง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามจับครับ ใครภพเบาะแส แจ้งวัดหนองตายายด้วยครับ  แอดมินขอความกรุณาอย่าลบครับ เรื่องใหญ่ต้องช่วยกันแชร์ ???????????? มีคลิปวีดีโอ ชัดเจนครับ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังวัดหนองตายาย(วัดตะกรุด )หมู่ 13 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้พบกับพระวินัย รตตปญโญ พระลูกวัดที่อยู่วัดหนองตายาย รวมแล้ว 6 พรรษา โดย อ้างว่า เรื่องราวที่ปรากฏขึ้นเป็นเรื่องจริง โดยพระดังกล่าว  ชื่อหลวงพ่อโม ขนตยาคโม ได้มาขอสร้างโบสถ์ให้ที่วัดนี้ พ.ศ.2563 โดยแต่งกายมาเป็นพระมาจากจังหวัดลพบุรี โดยทางวัดและชาวบ้านในพื้นที่ เห็นดีเห็นงามว่าจะเข้ามาสร้างโบสถ์ให้ จึงได้หารือกับกรรมการวัดและชาวบ้าน จึงได้ให้พระเข้ามาอยู่ที่วัด โดยมาเป็นลูกวัด ที่วัดแห่งนี้ และตัวพระวินัยยังอ้างต่ออีกว่า ตนเองก็จะเป็นคนขับรถให้กับหลวงพ่อโมประจำ (ที่เป็นพระที่ตกเป็นข่าว) หลังๆมา ก็เริ่มเห็นของไม่ดีที่อยู่ในรถ เช่น ไวอาก้า ถุงยาง ปืน พร้อมกับมีลูกกระสุนปืนภายในกุฏิ อะไรประมาณนี้ซึ่งมันไม่เหมาะสมที่จะอยู่ภายในรถพระ ซึ่งสอบถามพระโม เกี่ยวกับเรื่องของดังกล่าวที่อยู่ภายในรถ หลวงพ่อโม ได้อ้างว่า ไม่ใช่ของพระเองหรือหลวงพ่อโม ต่อมาทางด้านหลวงพ่อโมก็เริ่มเปลี่ยนคนขับรถ  จากตัวพระเอง เป็นคนอื่น แล้วล่าสุดพฤติกรรมหลวงพ่อโมก็เปลี่ยนไป โดยแต่งกายเป็นฆราวาสแล้วก็ไปที่อื่น พอมาวัดก็เปลี่ยนเป็นชุดเหลืองของพระ

ล่าสุดได้สอบถามนางสี อายุ 62 ปี เป็นลูกศิษย์วัดที่แห่งนี้ พร้อมกับก่อนหน้านี้ทางพ่อของป้าได้ยกที่ให้กับเจ้าของวัด ก็เลยหันมาทำบุญที่วัดแห่งนี้อยู่ประจำ  หลังๆมาพึ่งทราบจากชาวบ้านพูดถึงพฤติกรรมของหลวงพ่อโม หรือพระดังกล่าว ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวก็ซึ่งไม่เหมาะสมจริง เนื่องจากมีภาพผู้หญิงนั้นไม่ควรที่ยืนอยู่คู่กับพระหรือใกล้ชิดกัน จนมีภาพหลุดออกมาในโซเชียลดังกล่าว พร้อมกับมาสังเกตุที่คิ้วของพระตอนอยู่ในชุดเหลืองพระ กับในชุดฆราวาสซึ่งเป็นคนเดียวกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค.65 เป็นวันกฐินที่วัดดังกล่าว หลังจากเรื่องราวเกิดดังขึ้นมา หลวงพ่อโมก็หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.65 ก็ติดต่อหลวงพ่อโมไม่ได้เลย และก็ยังไม่ได้ถามถึงสาเหตุดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากติดต่อไม่ได้เลย

ส่วนทางเจ้าอาวาสวัด พระสำเภา เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองตายาย ก็ไม่ค่อยทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากความจำแก่เริ่มจำอะไรไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากอายุมากแล้วถึง 77 ปี 

ทั้งนี้ทางวัด ก็ติดต่อหลวงพ่อโมไม่ได้เช่นกัน หลังจากนี้ทางสำนักพุทธ ก็จะลงตรวจสอบถึงสาเหตุดังกล่าว ว่าผิดวินัยสงฆ์เรื่องใดบ้างและหาข้อเท็จจริงต่อไป

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว  ผู้สื่อข่าว ยังคงต้องสอบถามข้อเท็จจริง จากพระรูปดังกล่าว และพยายามติดต่อ   เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง  ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้