ระทึก!ไฟไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟโคราชวอดเสียหาย 3 หลัง จนท.คาดไฟฟ้าลัดวงจร

0 8

นครราชสีมา –เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา ระดมดับเพลิงเหตุไฟไหม้บ้านพักพนักงานรถไฟโคราช วอดเสียหาย 3 หลัง เจ้าหน้าที่คาดไฟฟ้าลัดวงจร

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในชุมชนบ้านพักพนักงานรถไฟ ชอย3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครนครราชสีมา ไปที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ซึ่งมีห้องติดกัน 4 ห้อง เลขที่ 782-785 ซึ่งไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครนครราชสีมา จึงได้ทำการฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า อายุเกือบ 100 ปี จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และถูกไฟไหม้เสียหายวอดไป 3 ห้อง ตั้งแต่ห้องเลขที่ 783-785 ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด โชคดีขณะเกิดไฟไหม้ไม่มีใครอยู่บ้านจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถามนางทัศนีย์ ชาญสูงเนิน อายุ 44 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างกัน เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 09.40 น.ของวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีแมววิ่งมาที่บ้านของตนเองด้วยความตกใจ และต่อมาก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนว่าไฟไหม้ ตนเองจึงได้ออกมาดูและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับไฟ เพราะบริเวณดังกล่าวมีต้นไม้อยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งบ้านใกล้เคียงก็เป็นบ้านไม้เก่าทั้งหมด กลัวว่าจะเกิดไฟลุกลามมาไหม้บ้านของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร

ด้านนายวิมล สุมมนนอก อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ช่างการรถไฟ ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 785 ที่ถูกไฟไหม้วอดเสียหาย บอกว่า ต้นเพลิงเกิดจากห้องเลขที่ 783 ซึ่งอยู่ใกล้กัน ขณะเกิดเหตุตนเองออกไปทำงานที่กองช่างการรถไฟ และมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าบ้านของตนเองถูกไฟไหม้ จึงได้รีบมาที่บ้าน และเห็นว่าบ้านถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดแล้ว โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้าน แต่ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเสียหายทั้งหมด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านต้นเพลิง ไม่มีคนอยู่ และเจ้าของบ้านไม่ได้จุดธูปเทียนไว้ แต่ต้นเพลิงเกิดที่บริเวณห้องครัว ที่มีสายไฟเก่าพาดอยู่ ถึงอย่างไรก็ตามจะได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจสอบ และทำการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้ง.