ศึกเลือกตั้ง 20 จว.อีสานเดือด!พรรคใดยึดพื้นที่ได้ฉลุยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า

ศึกเลือกตั้ง 20 จว.อีสานเดือด!พรรคใดยึดพื้นที่ได้ฉลุยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า





ad1

นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนักวิชาการอิสระ จ.นครราชสีมา ได้ออกมาวิเคราะห์การเมืองในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังจากที่ กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. ไว้วันที่ 7 พ.ค.66 และจะเปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย.66 ว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ช่วง 2 ปี หลังมานี้ มีสัดส่วนของ ส.ส.พรรคต่างๆ น่าสนใจมาก โดยการเลือกตั้งปี 59 จ.นครราชสีมา มี ส.ส.ได้ จำนวน 15 คน แบ่งสัดส่วนพรรคการเมืองคือ พรรคเพื่อไทย ได้ 8 คน พรรคชาติพัฒนา ได้ 4 คน พรรคภูมิใจไทยได้ 3 คน

 ต่อมาปี 62 จ.นครราชสีมา มี ส.ส.ได้จำนวน 14 คน แบ่งเป็นพรรคพลังประชารัฐ 6 คน พรรคเพื่อไทย 4 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน และพรรคชาติพัฒนา 1 คน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ในปี 66 จ.นครราชสีมา จะเลือก ส.ส.เขตได้ทั้งหมด 16 คน ซึ่งจะมีทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ แข่งขันกันอย่างดุเดือดแน่นอน โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตตัวเมืองนครราชสีมา และเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ที่ล่าสุดแชมป์เก่าเป็นนายเกษม ศุภรานนท์ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้ลาออกไปอยู่กับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเภ่า แล้ว

โดยคาดว่าจะลงสมัครในนามพรรคใหม่อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นพรรคอะไรนั้นก็ต้องรอติดตามข่าวยืนยันอีกที ซึ่งจะมีคู่แข่งที่สำคัญอย่างน้อย 7 พรรค เริ่มจาก 1.พรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งคาดว่าจะส่งนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคฯ มาท้าชิง หลังจากที่พรรคชาติพัฒนาเดิม เคยครองตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนาน และครั้งนี้ได้นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลังมาเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้คนโคราชคาดหวังว่าจะสามารถมาช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.พรรคภูมิใจไทย คาดว่าจะส่งนายอดุลย์ อยู่ยืน ส.อบจ.ลงสมัครเขตนี้ โดยพรรคภูมิใจไทยมีการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง และมีกลุ่มของนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.พาณิชย์ ที่มีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล ภรรยา เป็นนายก อบจ.หนุนหลังอยู่ด้วย 3.พรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะส่งนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ซึ่งมีฐานเสียงเป็นคนวัยหนุ่ม สาว จำนวนมาก

จากการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่ผ่านมา คะแนนเป็นอันดับ 2 ตลอด 4.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าจะส่งอดีต ส.ว.ลงสมัคร แต่เปิดตัวล่าสุดเป็น น.ส.สิริเพ็ญโสภา บางท่าไม้ วิศวกรหญิงที่ผันตัวเองมาเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ลงสมัครในเขตนี้แทน 5.พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งตอนนี้เป็นที่กล่าวขานกันมากในตัวเมืองโคราช เพราะมีกระแสข่าวว่าจะส่งนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกชายนางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว เจ้าแม่อู่ต่อรถทัวร์รายใหญ่ของประเทศไทย ลงสมัคร ส.ส.ในเขต 1 นี้ และที่สำคัญคุณหญิงสุดารัตน์ฯ ก็เป็นคนโคราชโดยกำเนิดด้วย จึงเป็นที่รู้จักของนักธุรกิจ และคหบดีในโคราชเป็นอย่างดี 6.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดิมทีมีนายเกษมฯ เป็น ส.ส.เขตนี้ แต่ย้ายไปอยู่พรรคใหม่แล้ว ตอนนี้ก็มีแกนนำหลักคือนายวิรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นแกนนำหลัก ที่จะหาตัวผู้สมัครมาลงท้าชิงตำแหน่งในเขตนี้แทน และ 7.พรรคเสรีรวมไทย ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นหัวหน้าพรรค เพราะพรรคนี้มีนโยบายต่อสู้กับการปราบปรามการทุจริต ที่กำลังเป็นกระแสตอบรับดีมากในโคราช แต่ยังไม่มีการเปิดตัวผู้สมัคร ซึ่งต้องจับตาดูอีกครั้งช่วงรับสมัครรับเลือกตั้ง

ดังนั้นใน จ.นครราชสีมา แค่เพียงเขต 1 ก็สู้กันดุเดือดแล้ว หากมองทั้ง 16 เขต ตัวแปรสำคัญอยู่ที่งบประมาณในการอัดฉีดหาเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรค แต่ละเขต ซึ่งครั้งนี้คาดว่าแต่ละพรรค แต่ละเขต จะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทเลยทีเดียว และคาดว่าทั้งประเทศจะใช้เงินหาเสียงไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งก็จะทำให้ กกต. ต้องทำงานอย่างหนัก ในการตรวจสอบการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง และการทุจริตการเลือกตั้งต่างๆ

ขณะเดียวกันเมื่อมองทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุด หากใครยึดพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ ก็สามารถการันตีได้เลยว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็แบ่งออกเป็น 2 พรรค คือพรรคทหาร กับพรรคที่ไม่ใช่ทหาร โดยหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของประชาชนแล้วว่าจะเลือกพรรคฝั่งไหน.