"บิ๊กโจ๊ก"แถลงการขยายผลคดีปราบปรามการค้ามนุษย์ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

"บิ๊กโจ๊ก"แถลงการขยายผลคดีปราบปรามการค้ามนุษย์ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่





ad1

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล "บิ๊กโจ๊ก" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร. ) ได้แถลงการขยายผลคดีปราบปรามการค้ามนุษย์ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะแก๊งชาวจีนที่เข้ามาเช่าสถานที่ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ชลบุรี ล่อลวงเด็กสาวชาวไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวเขา มาไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของจีน เพื่อเก็บเงินเข้าชมครั้งละ 35บาท ชมได้ 15 นาทีและต้องมีผู้ที่เข้ามาชมเกิน 3แสนคน จึงจะเปิดการแสดง สร้างรายได้มหาศาล โดยมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ 19 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 9 คน ซึ่งได้ติดตามจับ น.ส.ลีน่า และ น.ส.โมโม่ สาวชาวจีนเป็นหัวหน้าแก๊ง พร้อมผู้ร่วมขบวนการชาวไทยอีก 3 คน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย ล่ามและพากย์เสียง ขณะที่พามาถ่ายทำใน อ.หางดงและ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ตำรวจยังทลายแก๊งลักษณะเดียวกันนี้ที่ จ.เชียงราย เมื่อ 6 เดือนก่อน ซึ่งพบเด็กสาวชาวไทยและชาวลาวตกเป็นเหยื่อ 30 คน ขยายผลพบแก๊งนี้ซึ่งมีลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้อีกคดีได้จับนายหน้าสาวชาวเมียนมา คือนางนานเกี๋ยงคำ อายุ 35 ปี ได้ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมช่วยเหลือหญิงสาวชาวเมียนมา 5 คน ถูกพามาขายบริการทางเพศโดยเสนอขายบริการผ่านทางทวิตเตอร์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบตร. กล่าวว่า ทั้ง 2 คดีเป็นอีกรูปแบบของการค้ามนุษย์และการหากินของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ เช่นเดียวกับกลุ่มทุนจีนสีเทาเครือข่ายของนายตู้ห่าว ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้ดำเนินการกับผู้ต้องหาได้เกือบทั้งหมดแล้ว จากนี้ไปจะเร่งดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนสนับสนุนในการทำความผิด โดยเฉพาะตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บางส่วนซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งแก๊งอาชญากรชาวจีนส่วนใหญ่ ก่อนหน้านี้ตั้งฐานอยู่ในประเทศกัมพูชา แต่ถูกกวาดล้างอย่างหนักจึงเข้ามาอาศัยไทยเป็นฐานอีก ซึ่งหากอำนาจรัฐอ่อนแอ จะทำให้กลายเป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากรข้ามชาติทั้งยาเสพติด การพนันรวมทั้งการค้ามนุษย์