ตำรวจตามรวบหนุ่มรปภ.ร่วมกับพวกตระเวนปล้นทรัพย์พบประวัติก่อเหตุโชกโชน

ตำรวจตามรวบหนุ่มรปภ.ร่วมกับพวกตระเวนปล้นทรัพย์พบประวัติก่อเหตุโชกโชน





ad1

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป. รวบ รปภ.หนุ่ม ร่วมกับพวก 6 คน ตระเวนปล้นทรัพย์ ตรวจสอบประวัติพบเคยก่อเหตุปล้นโชกโชน

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,  พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ  ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สาธิต สมานภาพ, พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป.
 
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.สุรพล ชูใจ รอง สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.ท.เอกกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายชัยมงคล หรือโอม (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 33/2556 ลงวันที่ 15 ม.ค.56 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การ กระทำหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร” 
  
สถานที่จับกุม ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 04.30 น. ขณะที่นายทองม้วนฯ (ผู้เสียหาย) ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนบางไผ่-หนองเพรางาย จากทางด้านถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไทรน้อย เพื่อที่จะไปทำงาน โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อผู้เสียหายขับมาถึงบริเวณต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน มาประกบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และออกอุบายเรียกให้หยุดรถ โดยนายกฤษฎาญฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเทียบทางด้านขวาของผู้เสียหาย จากนั้นนายอิศเรศฯ ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถของนายกฤษฎาญฯ ได้เอื้อมมือมาดึงกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายออก ทำให้รถของผู้เสียหายดับ และระหว่างนั้นนายธวัชชัย, นายชัยมงคลฯ (ผู้ต้องหาตามหมายจับ), นายนพดลฯ และนายปฐวีฯ ก็ได้ขับรถจักรยานยนต์มาอีก 2 คัน จอดลักษณะล้อมหน้าล้อมหลังรถของผู้เสียหาย หลังจากนั้นนายอิศเรศฯ ได้หยิบอาวุธสั้นออกมาจากเอวพร้อมพูดจาข่มขู่และเล็งอาวุธปืนสั้นไปที่ผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้ต่อสู้ขัดขืนและเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหาย ด้วยความหวาดกลัวผู้เสียหายและภรรยาจึงลงจากรถจักรยานยนต์ จากนั้นนายอิศเรศฯ จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป (ทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย มูลค่าความเสียหายประมาณ 50,000 บาท) หลังเกิดเหตุผู้เสียหายพร้อมภรรยาจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง 


ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 6 คน และปัจจุบันยังคงเหลือนายชัยมงคลฯ เพียงรายเดียว ที่ยังคงหลบหนีการติดตามจับกุมอยู่
 
จนกระทั่งวันที่ 27 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. สืบสวนทราบว่า นายชัยมงคลฯ ได้หลบหนีมาทำงานเป็น รปภ. ที่ อาคารหอพักโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายชัยมงคลฯ เคยถูกจับกุมตัวดำเนินคดีต่างๆ เกี่ยวกับทรัพย์ และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในคดีเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์​ เมื่อช่วงปลายปี​ ๒๕63​
 
1.หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.21/2556 ลงวันที่ 12 มกราคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย, ทำ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาตฯ”
 
2.หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.149/2556 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ปล้นทรัพย์ (ชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป)”
 
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา