ตำรวจนำตัว 3 ผู้ต้องหาค้นหาปืนปากกาหลังร่วมกันฆ่าหนุ่มฝังดินกลางทุ่งนาปมเบี้ยวเงินค่ายาบ้า

0 17

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งพบศพชายถูกฆ่าฝังดินอยู่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านหนองยาว ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ โดยชาวบ้านพบเท้าของผู้ตายสวมรองเท้าสีแดงโผล่ขึ้นมาจากหลุมที่ฝัง ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายวิราช สงนอก อายุ 39 ปี ชาวบ้านบ้านหนองปรือพัฒนา หมู่ 16 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา ซึ่งจากการสอบถามญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้หายออกจากบ้านไปประมาณ 3 วันแล้ว โดยก่อนหายตัวผู้ตายได้บอกที่บ้านว่าจะออกไปยิงหนูนา จากนั้นก็หายตัวไป และมาพบเป็นศพถูกฝังดินอยู่กลางทุ่งนา เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนในวงเหล้า แล้วถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนนำศพมาฝังดินเพื่ออำพรางคดี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 พันตำรวจเอก ธัชพล ส่องแสง ผู้กำกับการ สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ และเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้แล้ว เป็นชาย 3 ราย ประกอบด้วย นายสุเทพ จันทร์น้อย หรือ เทพ อายุ 25 ปี, นายนายธีรภัทร เศษภักดี หรือ นนท์ อายุ 22 ปี และนายเอ (นามสมติ) เยาวชนอายุ 15 ปี โดยคนร้ายทั้ง 3 ราย เป็นเพื่อนรู้จักกันดี และอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันกับผู้ตาย ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดได้มานั่งดื่มสุราร่วมกันกับผู้ตายในกระท่อมใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำก่อนที่จะออกไปหายิงหนูนากัน

โดยระหว่างนั่งดื่มสุราคนร้ายทั้ง 3 คน ได้สอบถามถึงเงินที่ได้ให้นายวิราช ไปจำนวน 1,700 บาท เพื่อไปซื้อยาบ้ามาเสพกัน แต่นายวิราชกลับซื้อยาบ้ามาแค่เพียง 400 บาทเท่านั้น ทั้งหมดจึงทวงถามหาเงินที่เหลือจากการซื้อยาบ้า แต่นายนายวิราชกลับบอกว่าเอาเงินที่เหลือไปใช้หมดแล้ว และได้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น คนร้ายทั้ง 3 คนจึงเกิดความโมโหเข้ารุมทำร้ายนายวิราชผู้ตายด้วยการใช้ไม้ทุบตี และนายสุเทพฯ ได้ใช้อาวุธปืนปากกาที่พากมาด้วย ยิงผู้ตายไป 1 นัด บริเวณลำตัว ก่อนที่นายธีรภัทรฯ ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายจนเสียชีวิต แล้วทิ้งมีดไว้ใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนช่วยกันลากศพนายวิราชไปฝังดินอำพรางคดีไว้ในทุ่งนา ห่างจากกระท่อมที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร แล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป โดยหลังก่อเหตุนายสุเทพฯ ได้นำอาวุธปืนปากกา ไปทิ้งไว้ในสระน้ำ ในพื้นที่หมู่บ้านกระพี้ ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร

ซึ่งเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาคือนายสุเทพฯ ไปค้นหาอาวุธปืนปากกา ในสระน้ำดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ลงทำการค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถค้นหาปืนปากกาพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี โดยขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพกับกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป.