อดีตหนุ่มกู้ภัยคลั่ง! ควงปืนบุกจี้ลูกสาวในห้องเรียน ประชดเมียขอหย่า ตร.บุกชาร์จระทึก ครู-นร.หนีตายวุ่น

อดีตหนุ่มกู้ภัยคลั่ง! ควงปืนบุกจี้ลูกสาวในห้องเรียน ประชดเมียขอหย่า ตร.บุกชาร์จระทึก ครู-นร.หนีตายวุ่น





ad1

บุรีรัมย์- อดีตหนุ่มกู้ภัยแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง  คลุ้มคลั่ง ควงปืนปากกาบุกเข้าไปจี้ลูกสาวในห้องเรียน ป.1 ครูรีบแจ้ง ตร.เข้าชาร์จระทึก ท่ามกลางความตื่นตกใจของครูและ นร. ช่วงชุลมุนได้ยินเสียงปืนลั่น 1 นัด แต่เคราะห์ดีไม่โดนใคร เจ้าตัวเผยทั้งน้ำตาอ้างเครียดรับไม่ได้เมียไปกับชายอื่นแถมขอหย่า ด้านพี่สาวแม่ยายเผยลูกเขยมีนิสัยก้าวร้าวเคยใช้ปืนยิงขู่หลานชาย

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2565 เวลาประมาณ 13.00 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปในโรงเรียนทีโอเอวิทยา เทศบาล 1 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง เข้าตรวจสอบ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนทีโอเอวิทยา เทศบาล 1 อย่างเร่งด่วน

ทั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบ นายธวัชชัย หรือก้อง (ขอสงวนนามสกุล) ทราบภายหลังว่าเป็นอดีตกู้ภัยแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ซึ่งสวมเสื้อแขนยาวลายพราง อยู่ภายในห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 อาคาร 3 โดยมีท่าทางคลุ้มคลั่งพูดจาวกไปวนมา แสดงอาการคล้ายคนเมายาเสพติด และมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อยู่ภายในมือข้างซ้าย ซึ่งนายธวัชชัย ได้นั่งประกบด้านข้างของ ด.ญ.กิ๊ฟ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวของตัวเอง

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจจะก่อเหตุไม่คาดคิดหรือทำร้ายลูกสาวตัวเอง จึงได้แบ่งกำลังร่วมกับครูในโรงเรียน ทำการเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนเผชิญเหตุ ที่เคยมีการซักซ้อมกับโรงเรียนมาแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยเด็กนักเรียนด้วย

ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งเข้าไปทำการเจรจากับนายธวัชชัย ที่กำลังคลุ้มคลั่งให้ปล่อยลูกสาวออกมา จนกระทั่งสบโอกาสที่นายธวัชชัย เผลอ จึงได้บุกเข้าชาร์ทจับกุมตัว โดยจังหวะที่เข้าชาร์ทนายธวัชชัย ก็ร้องไห้และพูดพร่ำพรรณนาตลอดเวลา และช่วงชุลมุนได้ยินเสียงปืนลั่น 1 นัดแต่เคราะห์ดีที่ไม่โดนใคร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้แย่งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ออกจากมือนายธวัชชัย และเมื่อตรวจค้นตัว ก็พบกระสุนปืน ขนาด .38 อีกจำนวน 1 นัด ด้วยจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้นำตัวนายธวัชชัย ไปที่ สภ.นางรอง เพื่อทำการสอบปากคำ ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีเพียงลูกสาวผู้ก่อเหตุที่อยู่ในอาการตกใจ

หลังเหตุการณ์ยุติลงตำรวจควบคุมตัวนายธวัชชัย ไปที่โรงพักเพื่อทำการสอบปากคำเบื้องต้น นายธวัชชัย ก็ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่ง ผกก.ก็ได้ทำการสอบปากคำนายธวัชชัย ด้วยตัวเอง ซึ่งนายธวัชชัย ก็ร้องไห้ไปด้วยตอบคำถามไปด้วยว่า โดยอ้างว่าสาเหตุที่ก่อเหตุถือปืนบุกเข้าไปจี้ลูกสาว เพราะเครียดที่เห็นภรรยาไปกับผู้ชายคนอื่น แล้วเมื่อวานภรรยาก็ยังเดินทางมาที่โรงพัก เพื่อจะมาแจ้งความประสงค์กับตำรวจให้ช่วยลงบันทึกประจำวันให้ว่าต้องการจะหย่ากับตนเองอีก ทำให้เกิดความไม่พอใจ เพราะตัวเองยังรักและอยากใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา ส่วนรอยแผลที่มือนายธวัชชัย บอกว่า เมื่อวานทะเลาะกับภรรยา แล้วภรรยาหาว่าตนเองตบหน้า จึงใช้ปืนยิงใส่มือตัวเองเหมือนกับเป็นการลงโทษตัวเอง

ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโรงเรียน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นนายธวัชชัย ซึ่งเป็นผู้ปกครองได้ขี่ จยย. มาจอดที่หน้าโรงเรียน เห็นว่าเป็นผู้ปกครองนักเรียนจึงเปิดประตูให้เข้าไป เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้มีแสดงอาการว่าจะคลุ้มคลั่ง และไม่รู้ว่าพกอาวุธปืนมาด้วย มารู้อีกทีก็ตอนที่ครูโรแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่โรงเรียนก็ตกใจ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหนองงูเหลือม ตำบลนางรอง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยานายธวัช แต่ไม่พบภรรยา พบเพียงนางเฟื้อง ศรีเลิศ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวแม่ของภรรยานายธวัชชัย บอกว่า นายธวัชชัยมีนิสัยก้าวร้าว ชอบพูดจาโอ้อวด จึงไม่อยากสุงสิงหรือพูดคุยด้วย ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่ทะเลาะอะไรกัน เพราะส่วนใหญ่เขาจะไปเช่าบ้านอยู่ในตัวเมืองนางรอง และไม่รู้ว่าฝ่ายชายจะมีปืนเพราะไม่เคยเห็น เคยได้ยินแต่หลานชายเล่าให้ฟังว่าเคยถูกนายธวัชชัย ใช้ปืนยิงข่มขู่แต่ไม่รู้สาเหตุอะไร

เมื่อตรวจสอบความเคลื่อนไวในเฟซบุ๊กของนายก้อง ผู้ก่อเหตุ พบว่าเมื่อ 5 วันก่อน ได้โพส์ตภาพตัวเองขณะอยู่คนเดียว ขณะนอนเล่นกับลูกสาว และภาพที่ในมือถือปืนลักษณะเป็นปืนปากกา พร้อมระบุข้อความในลักษณะระบายความรู้สึกและขู่อาฆาตขู่ว่า เช่น “ กูลูกผู้ชายพอ แต่กูเจอแบบนี้ มึงบอกกูไม่ต้อง ว่ากูไม่รู้ว่ามึงอยู่ไหน กูจะบอกให้คนอย่างกูถ้าได้อาฆาตใครแล้วยากที่จะหนี คนอย่างกูไปได้ มึงจะตายด้วยเนื้อมือกูแน่ แล้วคนอย่างกูไม่เคยขู่ใครกูไม่เคยทำใครก่อนมึงคนแรก พี่กล้ามากมายเอาเมียกู ถ้ากูไม่ฆ่ามึงตายไม่ใช่กูแล้วไอ้ลูกหมา , มึงจำได้ไหมในวันนั้นที่เจอกู วันนั้นกูสั่งสอนมึง กูบอกมึงให้เลิกกับเมียกูใช่ไหมมึงไม่เลิก กูกลับจากมุกดาหารก่อนในเมื่อมึงไม่เลิกมึงก็ตายไปเลย , จะบอกไว้นะ กูชอบมา ไอ้พวกที่ชอบไปจีบเล่นเมียเขา.คนยากกูไม่เคยวะ จีบเมียคนอื่นเขา แต่มึงมาจีบเมียกู มึงก็ระวังจะตายไม่รู้ตัวก็แล้วกันกูจะบอกมึงว่ามึงจะอยู่นางรองไม่ได้ กูเจอมึงในนางรองตรงไหนมึงขับรถทัวร์ก็ตามระหว่างตายไม่รู้ตัวกูเตือนมึงไว้ก่อนนะ มึงเจอกูแล้วใช่ไหมคราวนี้มึงได้ตายแน่”

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน , พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , พกพาอาวุธปืนไปในสถานที่ราชการ และเสพสารเสพติด”