สมาพันธ์ SME ไทย จับมือ สปป.ลาว นำเทคโนโลยีแปรรูปสินค้าเกษตรเพิ่มมูลค่า บุกตลาดอาเซียน

สมาพันธ์ SME ไทย จับมือ สปป.ลาว นำเทคโนโลยีแปรรูปสินค้าเกษตรเพิ่มมูลค่า บุกตลาดอาเซียน





ad1

นครราชสีมา – สมาพันธ์ SME ไทย จับมือ สปป.ลาว นำเทคโนโลยีมาแปรรูปสินค้าเกษตร บุกตลาดอาเซียน หวังเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรไทย วันเดียวมีการจับคู่ธุรกิจไทย-ลาว ซื้อขายกว่า 300 ล้านบาท

วันนี้ (15 ธันวาคม 2565) นายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประธานจัดงานเชื่อมโยงการค้าการลงทุนจับคู่ธุรกิจ ผู้ประกอบการไทย-ลาว กล่าวว่า ในช่วงที่สถานการณ์ราคาพืชผลทางการเกษตรของไทยตกต่ำ ทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้พยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการรายย่อย นำพืชผลทางการเกษตรของไทย นำมาแปรรูปเป็นสินค้านานาชนิด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผลทางการเกษตร และขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อันจะเป็นการส่งเสริมให้ผลผลิตทางการเกษตรของไทย มีมูลค่าสูงขึ้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น

ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นำโดยนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และนายสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สาขา สปป.ลาว กับนายสถาพร พิจิตร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีลาว-ไทย ภายใต้ชื่อองค์กรเครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการกสิกรรมลาวไทย โดยมีท้าวสีปะไพ ไชสงคาม ปลัดกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว และนายรักติ ญวนกระโทก ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมกันนี้ยังได้มีการบรรยายพิเศษในห้อข้อ “BCG Economy กับความร่วมมือ SME ไทย-สปป.ลาว” โดยนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ซึ่งมีสมาชิกสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาชิกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลาว-ไทย ร่วมงานกว่า 180 คน

การจัดพิธีลงนามจัดตั้งองค์กรเครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการกสิกรรมลาว-ไทย ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้มีบันทึกความร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมพัฒนากสิกรรมลาว กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้มาตั้งแต่ก่อนปี 2561 โดยครั้งนั้นมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทย เป็นประธานลงนามความร่วมมือระหว่างกันเพื่อส่งเสริมพัฒนาช่วยเหลือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กระบวนการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ และซื้อขายแลกเปลี่ยนวัตถุดิบและสินค้าระหว่างกัน ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ต่อมาเมื่อช่วงกลางปี 2561 สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้มีการจัดประชุมใหญ่สัญจรสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครราชสีมา และที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานองค์กรเครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการกสิกรรมลาว-ไทย (สมาพันธ์เอสเอ็มอีลาว-ไทย)

เพื่อเชื่อมโยงการค้าและและการลงทุนและส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้ยกระดับพัฒนาผู้ประกอบการขนาดเล็กลาว-ไทย ให้เข้มแข็ง โดยแต่งตั้งให้นายสถาพร พิจิตร เป็นประธาน เพื่อประสานความร่วมมือภาครัฐ-เอกชนในสปป.ลาว และเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการกสิกรรมลาว-ไทย ให้ยกระดับองค์ความรู้ และพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และให้มีการผลิตซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างสองประเทศ แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้น จึงไม่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมต่อเนื่องได้

กระทั่งช่วงนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น จึงได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สาขา สปป.ลาว อย่างเป็นทางการขึ้น โดยได้รับความเห็นชอบและการสนับสนุนจากกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว มอบหมายให้สถาบันค้นตว้าวิจัยพืชกสิกรรมเป็นหน่วยร่วมในการผลักดันและดำเนินการโครงการให้ต่อเนื่องเพื่อ ช่วยส่งเสริมและพัฒนายกระดับด้านการพัฒนาการเกษตรกรอินทรีย์และเทคโนโลยี ด้านการแปรรูปสินค้าทางการเกษตรและการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป

โดยมีเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการไทย-ลาวให้เข้มแข็ง เชื่อมโยงธุรกิจการค้าช่องทางจำหน่ายสินค้าในเทศและระหว่างประเทศ ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้ากสิกรรมของสมาชิกระหว่างสองประเทศเช่นส่งเสริมการผลิตประกอบสร้างรถไฟฟ้าสามล้อ ที่ใช้ขนส่ง รถโซล่าเซลล์ ปั้มน้ำโซล่าเซลล์ใช้ในการเกษตร และรถยนต์ไฟฟ้าขายผลผลิตการกสิกรรมให้ถึงมือผู้บริโภคโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน ตามสโลแกน เพื่อนช่วยเพื่อนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยในงานครั้งนี้มีการแลกเปลี่ยนจับคู่การค้าภายในงาน ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าการซื้อขายระหว่างกันไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท.