19 ปี สถานการณ์ไฟใต้เกิดทหารมูอัลลัฟ มากหมาย อาจเป็นปมเงื่อนไขใหม่ทำให้สันติภาพเกิดช้า

19 ปี สถานการณ์ไฟใต้เกิดทหารมูอัลลัฟ มากหมาย อาจเป็นปมเงื่อนไขใหม่ทำให้สันติภาพเกิดช้า





ad1

จากกรณีเกิดการแย่งชิงศพทหารมุอัลลัฟ ร้อยโทสุรศักดิ์ บัวสาย หรือนายอามีน อดีตนายทหารในพื้นที่สายบุรี จ.ปัตตานี หนึ่งในทหารมุอัลลัฟที่ได้เปลี่ยนจากพุทธมานับถืออิสลามเป็นศาสนาใหม่ เมื่อวันที่24กรกฎาคม2557 ตามวันเดือนปีที่ได้ระบุในบัตรมุอัลลัฟของเขาที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา หรือ 9ปีที่แล้ว และในวันเดือนปีเดียวกันก็ได้แต่งงานกับนางสาวแมะนะ สะตาวา หรือกะยะห์แม่ม้ายติดลูกสาวรามัน จ.ยะลา อยู่กินกันมาฉันสามีภรรยาจนเกษียณอายุราชการเมื่อเดือนกันยายน2565 หรือ 4เดือนที่ผ่านมานั้นเอง 

จนกระทั่งเมื่อวันที่27ธันวาคม2565 ที่ผ่านมา ร้อยโทสุรศักดิ์ หรือนายอามีนเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ หลังจากมีอาการหายใจไม่สะดวกจากโรคมะเร็งระยะที่สี่ ภายหลังจากมาตรวจอาการป่วยตามหมอนัด จากนั้นเข้าพักรักษาตัวในห้องรวมอายุรกรรมชายในสภาพสวมท่อหายใจ ตลอดระยะเวลาพักรักษาตัวตั้งแต่27-30 ธันวาคม กะยะห์ภรรยาได้เฝ้าหน้าห้องตลอดและเข้าเยี่ยมทุกๆเวลาที่หมออนุญาต จนกระทั่งเสียชีวิตโดยที่กะยะห์ภรรยาที่เฝ้าอยู่หน้าห้องผู้ป่วยไม่รู้มาก่อนเลยเพราะพยาบาลไม่ได้แจ้งได้แต่รอเวลาที่จะเข้าเยี่ยมได้ “จนกระทั่งเวลา07.00น.ของวันที่30ธันวาคมได้มีภรรยาเก่า พร้อมลูกสาวที่นับถือพุทธ มาถึงแล้วบอกตัวเองว่าคุณพ่อเสียแล้วจะมารับศพพ่อกลับไป” ทำให้กะยะห์ภรรยามุสลิมช๊อกตกใจว่า สามีเสียชีวิตแล้วทำไมตัวเองไม่รู้

 จากนั้นเกิดการยื่อแย่งกันเพระผู้ตายได้ทำหนังสือพินัยกรรมสั่งเสียว่าจะให้จัดการศพเขาแบบอิสลามอย่างเดียว แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เพราะทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ได้ส่งมอบศพนายอามีนให้กับญาติฝั่งภรรยาพุทธขึ้นรถยนต์ออกจากโรงพยาบาลแล้วโดยไม่สนใจหนังสือพนัยกรรมของผู้ตายแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันลูกสาวของผู้ตายฝั่งพุทธก็ได้ยึดกุญแจรถยนต์และบัตรATMของผู้ตาย ก่อนนำรถยนต์พากลับอีกด้วย ทำให้กะยะห์น้ำตาตกเหลือเสื้อผ้าแค่พื้นที่เดียวที่สวมใสในวันนั้นเพราะกระเป๋าเสื้อผ้าที่เก็บไว้ในรถถูกพาไปหมดแล้ว เป็นอะไรที่เศร้าใจมากสำหรับสาวมุสลิมที่ต้องเจอกับเรื่องราวเดียวกันลักษณะนี้ กะยะห์ภรรยาของทหารมุอัลลัฟ ยังได้กล่าวอีกว่าเท่าที่รู้นายสุรศักดิ์หรือนายอามีนได้แต่งงานกับสาวมุสลิมมาก่อนเขาแล้วแต่ภรรยามุสลิมคนนั้นได้เสียชีวิต จึงมาได้กับเขา

นายซอลาฮุดดีน หะยียูโซะ เลขานุการคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ได้ กล่าวว่า เคสแบบนี้ที่เป็นปัญหามีเยอะ แต่ไม่ได้เข้ามาในระบบ ที่มีข้อมูลเฉพาะปี 2564 มีผู้เข้ารับศาสนาอิสลาม จำนวน 65 คน เป็นเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ 6 คน ปี 2565 จำนวน 60 คน เป็นเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ 6 คน จริงๆมีข้อมูลมากกว่านี้ หลายปีย้อนหลัง แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไม่อยู่ นอกจากตรงนี้ยังมีเจ้าหน้าที่มูอัลลัฟ ที่ไม่ได้เข้าระบบอีกเยอะ และเป็นปัญหามากมาตลอด เชื่อว่า อนาคตจะมีอีกเยอะ ที่เรารู้เนื่องจาก พวกเขาจะต้องมาทำเอกสาร ความเป็นมุสลิมและเอกสารจัดการศพ ซึ่งเอกสารตรงนี้ สามารถนำไปเปลี่ยนศาสนาใบบัตรประชาชนได้เลย มีผลทางกฎหมาย 

ผมคิดว่าเคส ที่เป็นปัญหานี้ มีอะไรมากกว่าที่เรายังไม่ทราบ เพราะภรรยาบอกว่า ลูกสาวก็เคยมาและชวนพ่อกลับพ่อก็ไม่กลับ อยากอยู่ที่นี้ให้ภรรยาที่นี้จัดการศพ ก็ถือเป็นกรณีตัวอย่าง เคสต่อไปให้คิด สุดท้ายก็คงต้องเป็นไปตามศาลพิจารณา ก็เมื่อภรรยาแจ้งความแล้วต้องศาลเป็นผู้ตัดสิน เพราะอีกด้านมีทะเบียนสมรส อีกด้าน มีทะเบียนสมรสของคณะกรรมการอิสลาม ซึ่งกรรมการอิสลามก็ไม่ได้ออกสุ่มสี่สุ่มห้า กรรมการอิสลามออกตามกฎหมาย และเป็นข้อตกลง ระหว่างมหาดไทยกับคณะกรรมการอิสลาม

หลังจากนี้ คงจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมประจำเดือนกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย สิ้นเดือนนี้ มาคุยถึงการดูแลและสิทธิ์ๆตรงนี้ใครเป็นผู้ได้รับกรรมสิทธิ์ เพราะเรายังไม่ทราบว่าหลังจากเสียชีวิตแล้ว มรดกตกทอดมีบำเหน็จบำนาญอะไร และนอกจากเรื่องการจัดการศพ แล้วก็ควรจะเป็นผู้จัดการมรดกไปเลย อันนี้คือประเด็นที่เราต้องคุยต่อไป  

ประเด็กนลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่ นายทหาร ขับเครื่องบิน ช่อง 7 ขับเครื่องบินตกที่กาญจนบุรี ภรรยาเป็นคนยะลา สุดท้ายก็เคลียร์ได้เอาศพมาทำพิธีทางศาสนาอิสลาม แต่เคสนั้นเขาอย่าเรียบร้อยแล้ว จบไปด้วยดี เรื่องนี้ที่เป็นประเด็น มีเรื่องของมรดกตกทอด เรื่องบำเหน็จบำนาญที่เป็นเรื่องใหญ่ ที่นี้ก็ต้องฝากไปถึงผู้บังคับบัญชา หรือกองทัพว่า จะพิจารณาอย่างไรเพราะกรณีแบบนี้ กองทัพหรือรัฐบาล จะแก้ปัญหาอย่างไร อย่าให้เป็นน้ำพึ่งหยดเดียวก็แล้วกัน 

ได้ดูกฎเหล็กของหน่วยความมั่นคงของ กองทัพ เขาก็ห้ามอยู่แล้ว การแต่งงาน การมีครอบครัว โดยเฉพาะคนที่มีสามีอยู่แล้ว หรือเด็กสาวๆ และเด็กในพื้นที่บางคนก็ชอบคนในเครื่องแบบ ส่วนใหญ่มาหน้าตาก็ดีด้วย มาจากภาคอีสานขาวๆ ฝากไปยังรัฐบาลอยากให้มาทำงาน ในรูปลักษณะของเรื่องความมั่นคงจริงๆ แต่เรื่องนี้มันนอกเหนือจากความมั่นคงแล้ว หลายคนก็มีลูกมีเมียอยู่แล้ว  แต่ประเด็นมูอัลลัฟ ถ้ายังอยู่พื้นที่ไม่ได้ย้ายไปไหนไม่มีปัญหาแต่หลังจากย้ายไปหรือ เกษียณ จะเป็นประเด็น

อิสลามไม่ได้ห้ามแต่งงานกับคนนอกศาสนา แต่เมื่อแต่งานแล้วมีปัญหาก็ไม่สนับสนุน โดยเฉพาะในกรอบ การแต่งงานขงอเจ้าหน้าที่มาจากที่อื่น ต้นสังกัดก็ควรดูแลไม่ ในกรณีแบบนี้ควรเพิ่มวินัย  เรื่องแบบนี้ ผมมั่นใจว่า คนในพื้นที่ก็ไม่ชอบไม่เห็นด้วย การสร้างสันติภาพ มันก็ยิ่งช้าๆ เพราะเหมือนกำลังกดขี่ผู้หญิงโดยตรงุ้หญิงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอด แล้วกลุ่มขบวนการก็จะนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นเงือนไขให้ขยายความต่อได้ ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้าการแก้ปัญหา

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่4 กล่าวว่า เรามีกฎเหล็กอยู่แล้วในเรื่องชู้สาวถ้ามีเราก็ลงโทษตามวินัยอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาเกิดมีความรักชอบพอกันก็เป็นไปตาม วิธีการขั้นตอนตามศาสนาต่างๆซึ่งตรงนี้เราก็เข้าใจกำลังพลดี แต่การที่จะไปตกลงอะไรกันต่างๆ ตัวกำลังพลไม่ได้รายงานให้กับหน่วยรับทราบ

 หน่วยก็ไม่สามารถทราบได้ว่า เขาได้ตกลงอะไรกันซึ่งถ้าเป็นเรื่องชู้สาว ทางกองระบบต้องลงโทษทางวินัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ได้เน้นย้ำทุกหน่วย ทางเราเอง ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยเน้นย้ำกับกำลังพลทุกคนอยู่ตลอดเวลาทั้งคนเก่าและคนใหม่ที่ลงไปปฏิบัติงาน แล้วตัวร้อยโทสุรศักดิ์อยู่หน่วยไหนทำงานที่ไหน นายทหารท่านนี้เกษียณไปแล้วครับไม่ได้ประกอบงานอยู่ในหน่วยแล้วครับ เรื่องนี้คงต้องใช้ทางหลักกฎหมายเข้าดำเนินการแล้วล่ะทางภรรยาต้องแจ้งความคับ
นายรุสดี บาเกาะ รองประธาน คณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดยะลา บอกว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ใส่สะอาด มีศาสนกิจที่เรียบง่าย นับถือพระเจ้าอัลลอฮ์องค์เดียว และพิธีกรรมเกี่ยวกับศพก็เรียบง่าย อาบน้ำให้ศพเรียกญาติๆมาจูบหน้าผากอำลาศพ ห่อศพ พาละหมาดศพ แล้วก็นำไปฝั่งห้ามเกิน 24 ชั่วโมง นานไปทำให้ศพทรมาน เพราะศพที่ดีเขาเห็นภาพสวนสวรรค์แล้ว คนเป็นจึงต้องรีบเอาศพฝั่งโดยเร็ว

สำหรับเคสกำลังดราม่าอยู่ขณะนี้ ทหารที่เข้ารับอิสลามมานาน 10 ปี แล้วแต่งงานกับแม่ม่าย ที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา อยู่แบบฉันสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของอิสลาม และมีใบรับรองเข้ารับอิสลาม มีหนังสือพินัยกรรมทางศาสนาอิสลาม ออกโดยคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา แล้วเกิดเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวัน 1 ม.ค 66 ที่ผ่านมา และทางภรรยาเก่า (พุทธ) และลูกๆ ได้ทราบข่าวการเสียชีวิต จึงได้ไปรับศพของพ่อที่เป็นทหาร กลับมาทำพิธีศาสนาพุทธ ที่บ้านเกิดจังหวัดอยุธยา ซึ่งเมื่อวันที่(4ม.ค66ที่ผ่านมา ทางญาติฝั่งไทยพุทธได้ทำพิธีเผาศพ ในเวลา 16.00 น.  ที่วัดอยุธยาในที่สุด หลังเกิดการชิงศพทหารมุอัลลัฟระหว่างภรรยาฝังพุทธกับภรรยาฝั่งมุสลิม และเชื่อกันว่าเคสนี้ต้องไม่ใช่เคสสุท้ายและไม่ใช่พึ่งเกิดแต่เกิดมาก่อนแล้วแต่ถูกปิดข่าวเงียบ