ภาคีเครือข่ายาง-ปาล์ม ดีเดย์ 15 ม.ค.นี้พบพรรคการเมืองชงผลักดันราคาผลผลิตมั่นคงยั่งยืน

ภาคีเครือข่ายาง-ปาล์ม ดีเดย์ 15 ม.ค.นี้พบพรรคการเมืองชงผลักดันราคาผลผลิตมั่นคงยั่งยืน





ad1

ภาคีเครือข่ายชาวยางพาราและปาล์มน้ำมัน พบพรรคการเมืองกลางเดือนมกราคม 66  ระบุ “ยกร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมันปี 60” ยังไม่เกิด และไม่เห็นด้วยนโยบายประกันราคาปาล์มน้ำมันบอบช้ำไม่ต่างนโยบายประกันราคายาง เพราะรัฐบาลประชาชนทั่วประเทศต้องรับชดใช้แทน จากราคาที่จะถีบตัวลง 

นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่าวชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า คยปท.และเครือข่าย เรื่องนโยบายปฎิรูปยางพาราอย่างยั่งยืน ก่อนนั้นได้นำเสนอต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 และปี 2558 และในปี 2560 เสนอเป็นโยบายยางพาราเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นกัน คือการทำป่ายางพารา เรื่องของพันธุกรรมยาง แปรรูปใช้ยางพารา ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ  ฯลฯ  มาแล้วแต่ปรากฎว่าไม่มีความก้าวหน้า และในส่วนเรื่องสวนปาล์มน้ำมันนั้น ทาง คยปท.และเครือข่าย ที่ได้นำเสนอเพื่อยกร่างเป็นพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันปี 2560 

แต่จนถึงเวลานี้เป็นเวลากว่า 5 ปี ยังไม่ปรากฎเป็น พรบ.ปาล์มน้ำมัน ซึ่งที่ดูแลควบคุมปาล์มน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่เรื่องเปอร์เซ็นต์ปาล์มน้ำมันเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากปาล์มน้ำมันไม่มีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ปาล์มน้ำมัน ขณะที่ยางพาราที่มีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งปาล์มน้ำมันก็ต้องมีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันเช่นกัน

“จากการศึกษาปาล์มน้ำมันที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ โดยปาล์มน้ำมันสุกวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่มาที่ประเทศไทยปาล์มน้ำมันสุกได้เพียง 18 เปอร์เซ็นต์” 

นายทศพล กล่าวว่า จำนวน 2 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกตัดไปถ้าคิดมูลค่าราคาปาล์มน้ำมันวันนี้ ที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5 บาท / กก. เปอร์เซ็นต์ละ 27.77 สตางค์ จำนวน 2 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยประมาณ 00.50 บาท / กก. จำนวน 1 ตัน เงินจะหายไปประมาณ 500 บาท / ตัน โดยปาล์มน้ำมันในประเทศไทยสามารถผลิตได้ประมาณ 16 กว่าล้านตัน / ปี จากตัวเลขสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะเป็นเงินมูลค่ามหาศาลที่เม็ดเงินต้องหดหายไป 

นอกนั้นแล้วปาล์มน้ำมันทุกชิ้นส่วนตั้งแต่ทะลายปาล์ม เมล็ดเนื้อใน ขี้เค้ก ฯลฯ โดยเฉพาะทะลายปาล์มมีราคาเกือบ 1,000 บาท / ตัน ทุกชิ้นส่วนสามารถนำแปปรูปเป็นอาหารสัตว์ เป็นปุ๋ย และผลิตสบู่ ยาสีฟัน เครื่องสำอาง เป้นต้น ชิ้นส่วนผลปาล์มต่างมีมูลค่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อพลังงาน อาหาร และแปรรูปเป็นผลิตเครื่องใช้ สบู่ เครื่องสำอาง ฯลฯ สำหรับฟากเป็นพลังงาน จะได้ทั้งเครื่องจักรกลหนัก โรงงานอุตสาหกรรม และรถ โดยผลิตใบโอดีเซล บี 5 บี 7 และ บี 100 

นายทศพล กล่าวอีกว่า และมีประเด็นสำคัญคือกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน (กนป.) ในการกำหนดนโยบายปาล์มน้ำมัน พื้นที่ใดมีสวนปาล์มน้ำมัน 500,000 ไร่ ต้องมี กนป. 1 คน ก็จะต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ปาล์มน้ำมันที่มีการขยายตัวปลูกเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากในระยะหลัง ๆ จากราคายางพาราและราคาข้าวตกต่ำ มีการทิ้งยางพารา นาข้าว หันไปพัฒนาลงทุนปลูกปาล์มน้ำมัน แต่พื้นที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจน บางพื้นที่จึงเสียโอกาสการเป็น กนป.ที่จะเข้าไปวางนโยบายปาล์มน้ำมัน และประการสำคัญ กนป.ชาวสวนปาล์มน้ำมันที่เข้าไปเป็น กนป.จะเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากตัวแทนอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันรายใหญ่ 

ดังนั้นทาง คยปท.จะมีการจัดตั้งกลุ่มชาวสวนปาล์มรายย่อยขึ้นมาจะมีประมาณรายละ 5 ไร่ 10 ไร่ และไม่เกิน 15 ไร่ จากโค่นยางพารา เปลี่ยนที่ทำนามาปลูกปาล์มน้ำมัน แต่เป็นประประชากรส่วนใหญ่ แต่สวนปาล์มน้ำมันรายขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นประชากรส่วนน้อยไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นสวนปาล์มน้ำมันขนาดกลางระดับ 1,000 ไร่ขึ้นไป และหลักหมื่นไร่ เป็นต้น 

นายทศพล กล่าววจะเชิญชวนชาวสวนปาล์มน้ำมันรายย่อยทางภาคใต้ประชุมสัมมนาก่อตั้งสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันรายย่อยแห่งประเทศไทย และสามารถที่จะผลักดันตัวแทนที่จะเข้าไปนั่งใน กนป.ได้ 

“ในส่วนประเด็นนโยบายการประกันราคาปาล์มน้ำมันไม่เห็นด้วย เพราะจะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันไม่ปรับตัวขึ้นและจะถีบตัวลง สาเหตุเพราะรัฐบาลประกันราคาให้ ที่ราคาลงชาวสวนปาล์มน้ำมันไม่ประสบปัญหารัฐบาลชดเชยให้ ไม่ต่างกับนโยบายประกันราคายางพารา ส่งผลให้ราคาไม่ปรับตัวขึ้น เพราะรัฐบาลจะชดเชยให้ แล้วในที่สุดรัฐบาลจะต้องนำเงินภาษีของประชาชนไปชดใช้ให้” 

นายทศพล กล่าวอีกว่า ทั้งยางพาร และปาล์มน้ำมันทาง 4 องค์กรยางภาคใต้  1. คยปท. 2. สมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยภาคใต้  3. วิสาหกิจชุมชนแปรรูปยางถ้ำพรรณรา  และ 4. กลุ่มเอสเอ็มอีพ่อค้าน้ำยางและผู้แปรรูปยางจะร่วมการเสวนา “นวัตกรรมปัญญาของพรรคการเมือง เพื่อความสุขความมั่นคงของคนยางพารา” โดยมีเกษตรกรชาวสวนยาง  พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชาติ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคก้าวไกล 

ในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566  ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดสุวรรณาราม ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทั้งนี้ จะนำเสนอต่อพรรคการเมืองควบคู่กันระหว่างยางพาราและปาล์มน้ำมัน  และเมื่อพรรคการเมืองรับไปดำเนินการเขียนเป็นนโยบายก็จะเป็นหนทางที่อยู่รอด.