ไม่รอด!สกัดจับ 2 ผัวเมียคาด่านลอบขนยาบ้ากว่า 4 พันเม็ดจากสระบุรีไปขายให้วัยรุ่นโคราช

ไม่รอด!สกัดจับ 2 ผัวเมียคาด่านลอบขนยาบ้ากว่า 4 พันเม็ดจากสระบุรีไปขายให้วัยรุ่นโคราช





ad1

พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ ฟุ้งพิมาย รอง ผกก.(ป.) และ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ สุดสีเลี้ยง สวป. กับ ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมธานันทิวรรช รอง สวป.สภ.พิมาย นำกำลังตำรวจ 191 สภ.พิมาย ตั้งด่านตรวจยาเสพติด ที่บริเวณถนนสาย พิมาย-ชุมพวง ในจุดเลยโค้งท่านางสระผม ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ให้เร่งกวาดล้างยาเสพติด จับกุมผู้กระทำผิด และค้นหาผู้เสพเข้ากระบวนการรักษา ซึ่งระหว่างตั้งด่านตรวจฯ

พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน ขล-321 นครราชสีมา ขับผ่านด่านฯ เข้ามา โดยมีคนขับและผู้โดยสาร รวม 2 คนที่มากับรถ  เจ้าหน้าที่ฯ จึงขอตรวจค้น ทราบชื่อคนขับ คือ นายไกธัชศรณ์ หรือ “จม” เลี่ยมรัตน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.10 ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ส่วนอีกคนนั่งโดยสารมาข้างคนขับ เป็นผู้หญิง ทราบชื่อคือ นางสาวสุภาพรหรือ “จู”  แซ่โง้ง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 136 ม.8 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน

และเมื่อขอตรวจดูใบอนุญาตขับขี่ คนขับบอกว่าไม่มี ซึ่งระหว่างการตรวจค้น ทั้งสองคนมีท่าทางลุกลี้ลุกลน เจ้าหน้าที่ฯ จึงให้ทั้งสองคนลงจากรถ เพื่อจะได้ทำการตรวจสอบรถโดยละเอียด จนไปพบกับห่อยาบ้า จำนวน 2 มัด ที่บริเวณด้านหลังเครื่องเสียงติดรถ จึงทำการควบคุมตัวทั้งสองคนมาที่สภ.พิมาย เพื่อตรวจรถอีกครั้ง และเมื่อแกะห่อยาบ้าที่ตรวจพบ 2 มัด แต่ละมัดจะมียาบ้าบรรจุในซองพลาสติก จำนวน 10ซองๆ ละกว่า 200 เม็ด เมื่อนับรวมทั้งหมด มียาบ้าทั้งหมด 4,044 เม็ด เจ้าหน้าที่ฯ จึงตรวจยึดเอาไว้ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , บุหรี่ไฟฟ้า 1 ก้อน , รถเก๋งที่ใช้ประกอบเหตุ 1 คัน และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

พ.ต.ท.ประเสริฐ ฟุ้งพิมาย รอง ผกก.(ป.)สภ.พิมาย ได้แถลงผลการจับกุม ว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นยาบ้าของตนเอง  ไปรับมาจาก จ.สระบุรี เพื่อจะนำไปส่งให้วัยรุ่นใน อ.พิมาย โดยจะนำยาบ้ามาวางไว้ตามจุดที่นัดหมายกันไว้ แล้วให้โอนเงินส่งมาให้ แต่มาถูกจับเสียก่อน แต่ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังไม่ยอมเปิดเผยว่าได้รับยาบ้ามาจากใคร จำหน่ายเม็ดละเท่าไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลติดตามหาผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมายเป็นการก่อแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”