รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามความก้าวหน้าการส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงปูทะเลในพื้นที่ปัตตานี

รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามความก้าวหน้าการส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงปูทะเลในพื้นที่ปัตตานี





ad1

วันนี้(27มกราคม66)นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาสัตว์น้ำชายฝั่งปัตตานี ตั้งอยู่บริเวณ ม.4 บ้านดาโต๊ะ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงปูทะเลสู่ปูโลก ในโอกาศนี้รองปลัดฯและคณะได้ไปชมความพร้อมของโรงเพาะลูกพันธ์ปู เพื่อสนับสนุนแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และเพื่อนำปล่อยสู่แหล่งน้ำเค็มตามธรรมชาติเช่นบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนพันธุ์ปูในแหล่งธรรมชาติ

 เมื่อโตเต็มวัยชาวบ้านจะได้จับมาบริโภคและจำหน่ายเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้เลี้ยงชีพเลี้ยงครอบตรัวของประชาชนในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง โดยมีนายทศพล พลรัตน นักวิชาการและชำนาญการด้านประมงประจำศูนย์ฯได้ทำหน้าที่ชี้แจงอธิบายโครงสร้างของโรงเพาะพันธ์ปู ตั้งแต่การเตรียมบ่อเลี้ยงแม่พันธุ์ปูไข่นอกกระดอง การเตรียมบ่ออนุบาล ที่มีขั้นตอน จนกว่าจะสามารถนำลูกปูแจกจ่ายให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเลี้ยงของปัตตานี และสามารถนำปูปล่อยอหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะการวางระบบน้ำไหลเวียน การดึงน้ำเสียออกจากโรงเพาะโดยผ่านกระบวนการบำบัดน้ำก่อนที่จะนำน้ำไหลเวียนกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งถ้าเกษตรกรไม่ผ่านในขั้นตอนนี้อาจจะทำให้แม่พันธุ์ปูและลูกปูตายยกบ่อได้

รองปลัดกระทรวงเกษตรฯและคณะฯยังได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปู เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของการเลี้ยงปู และร่วมรับฟังการบรรยายสรุปความก้าวหน้าของโครงการเลี้ยงปูทะเลสู่ปูโลก โดยมีนายทศพล พลรัตน ทำหน้าที่บรรยายสรุป พร้อมเปิดให้ตัวแทนผู้เลี้ยงปูเล่าบอกประสบการณ์และข้อเสนอแนะสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงปู

นายมะรูดิง เจ๊ะแว ตัวแทนผู้เลี้ยงปูทะเลกลุ่มบางปูกล่าวว่าการเลี้ยงปูอาจไม่รวยแต่พอเลี้ยงครอบครัวได้ ถือว่าเรามีความโชคดีที่เรามีบ่อกุ้งร้างมาเลี้ยงปู โดยที่เจ้าของไม่ได้คิดค่าเช่า จึงอยากให้รัฐสงเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงปูอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขด่วนคือทำอย่างไรให้น้ำในอ่าวปัตตานีเค็มกลับมาเหมือนเดิม เพราะปกติแล้วบ้านเราปลายเดือนธันวาคมน้ำจะเริ่มเค็มหลังฤดูน้ำหลากประจำทุกปี แต่ปีนี้ปลายเดือนมกราคมแล้วน้ำยังจืดมีความเค็มแค่5ppm ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงปู

เนื่องจากการไหลเวียนของน้ำเค็มจากอ่าวไทยเข้ามาทางแหลมตาชีที่ปากอ่าวที่เชื่อมระหว่างอ่าวปัตตานีกับอ่าวไทยเพียงด้านเดียว ปัจจุบันแหลมตาชีได้ยืดสันทรายทอดยาวทุกปีทำให้ปิดทางเข้าออกของน้ำเค็มจากอ่าวไทยถึงขั้นวิกฤตมาร่วมเลยเวลามา20กว่าปี แต่ปีสองปีมานี้วิกฤตมาก อาจส่งผลกระทบต่อการทำนาเกลือทะเลของเกษตรกรอีกด้วย จึงอยากให้รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ด่วนด้วย

นอกจากนั้นเกษตรกรยังได้เสนอแนะให้มีการจัดสรรงบประมาณให้เกษตรกรใช้ในการปรับปรุงบ่อ เพราะส่วนใหญ่แล้วเกษตรกรจะเลี้ยงในบ่อกุ้งร้าง บางแห่งมรลักษณะที่เสื่อมโทรม จึงจำเป็นต้องมาการปรับปรุงตกแต่งให้สามารถใช้เป็นบ่อเลี้ยงปู และอยากมีกองทุนในการใช้เป็นทุนหมุนเวียนซื้อลูกพันธุ์ปูมาลงบ่อ เพื่อให้เกิดการเลี้ยงปูอย่างต่อเนื่อง เพราะลำพังพันธุ์ที่แจกจ่ายเกษตรกรกีมีจำนวนไม่มาก เพราะข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ จึงอยากให้รัฐจัดสรรกแงทุนเหล่านี้ ในรูปงบประมาณ หรือกองทุนกู้ยืมที่ปลอดดอกเบี้ย ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปูเพิ่มสภาพคล่องอีกทางหนึ่งในการร่วมผลักดันสู่ปูโลก