ชาวพิจิตรนักท่องเที่ยวแห่ทำบุญวันมาฆบูชามหกรรมลิเกแก้บนหลวงพ่อเหลือ วัดหงษ์

ชาวพิจิตรนักท่องเที่ยวแห่ทำบุญวันมาฆบูชามหกรรมลิเกแก้บนหลวงพ่อเหลือ วัดหงษ์





ad1

อะเมซิ่งสายมู ทึ่งในความศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ของหลวงพ่อเหลือ วัดหงษ์ ตำบลย่านยาว เมืองพิจิตร กลายเป็นที่เลื่องลือ “บนบานศาลกล่าว ขอเงินได้เงิน ของานได้งาน ขอมีลูกชายหญิงได้สมดั่งใจ” ทุกวันเพ็ญเดือน 4 ของทุกปี วัดกำหนดให้เป็นวันจัดงานมหกรรมแก้บนคนโชคดีด้วยการนำลิเกมารำแสดงถวาย

วันที่ 6 มีนาคม 2566 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา และตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่วัดหงษ์ ตำบลย่านยาว เมืองพิจิตร หรือ วัดหลวงพ่อเหลือ ได้กำหนดให้ในช่วงระหว่างวันที่ 5-8  มีนาคม 2566 เป็นวันจัดงานนมัสการและสมโภชหลวงพ่อเหลือขึ้น โดย พ.ต.อ. กฤษฎา  ภัทรประสิทธิ์  นายก อบจ.พิจิตร เป็นประธานเปิดงานท่ามกลางศิษยานุศิษย์ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศนับหมื่นคนที่พร้อมใจมาแก้บนภายในงานด้วยการนำลิเกรำแก้บนเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตการงาน

พระครูวิวิธบุญกิจ เจ้าอาวาสวัดหงษ์ “พระอาจารย์สมชาย” เล่าประวัติของวัดแห่งนี้ผ่านการแสดงไลท์แอนด์ซาวด์เล่าประวัติว่า  วัดหงษ์ เดิมชื่อ วัดโหง , วัดหงส์ หรือ วัดหงสาวาส ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลย่านยาว อำเภอเมืองพิจิตร สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2400 มีโบราณวัตถุสำคัญ คือ พระพุทธรูป พระประธานในโบสถ์ นามว่า “หลวงพ่อเหลือ” ซึ่งในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง อยู่ริมแม่น้ำน่านมีพระประธานในอุโบสถร้างนั้นเดิมเรียกว่า “หลวงพ่อโต” ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2440 แม่น้ำน่านกัดเซาะตลิ่งชาวบ้านจึงช่วยกันย้ายวัดและพระประธานให้ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำน่าน จนมาประดิษฐานอยู่ ณ อุโบสถ วัดหงษ์ ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2472 ตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 12 ปีมะเส็ง

หลวงพ่อเหลือเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยประทับนั่งฐานเขียง พระเพลากว้าง 96 นิ้ว สูง 133 นิ้ว ทรงยืดพระอุระผึ่งผายมีลักษณะงดงาม สันนิษฐานว่า ช่างปั้น ช่างหล่อพระ สร้างขึ้น เป็นฝีมือสกุลช่างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในวัดแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพรรณ อีกทั้งยังมีต้นตะเคียนใหญ่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือกราบไหว้ ชื่อ “แม่โหง แม่นาง” เพราะเชื่อกันว่ามีนางไม้สิงสถิตอยู่อายุประมาณ 200 ปี

ชาวบ้านกราบไหว้บนบานศาลกล่าวเคยได้โชคได้ลาภสมดังปรารถนา เช่นเดียวกับหลวงพ่อเหลือที่อยู่ภายในอุโบสถวัดหงษ์ เป็นประจำทุกวันก็จะมีผู้คนมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว ขอให้ลูกให้หลานสอบเข้าเรียนตำรวจ ทหาร ก็ได้สมดั่งใจนึก บนบานศาลกล่าวขอให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง บนบานศาลกล่าวขอให้มีลูกชายหญิง ก็ได้ง่าย เหมือนดั่งเทวดาประทานพรให้ ฯลฯ ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ของหลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ สะสมบารมี มีข่าวแพร่กระจายโด่งดังไปทั่ว

อีกทั้งมีความเชื่อกันว่าถ้าบนบานศาลกล่าวด้วยลิเก ที่เชื่อกันว่า หลวงพ่อเหลือชอบมากนักแล เมื่อได้สมดั่งใจนึกที่บนบานศาลกล่าวไว้ ต่างคนต่างก็นำลิเกมาเล่นแก้บน ทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งวัดหงษ์ย่านยาว แห่งนี้ ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนบ้านวัดหงษ์ เมื่อลิเกมาเล่นแก้บนกันแทบทุกวันทั้งกลางวันกลางคืน เด็กๆ ก็ไม่เป็นอันเรียนหนังสือ ส่วนพระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่มีสมาธิในการสวดมนต์ภาวนา

ดังนั้นต่อมากรรมการวัดและคณะสงฆ์จึงพิจารณาว่าสมควรให้ผู้ที่จะทำการจ้างลิเกมาแสดงแก้บนหลวงพ่อเหลือ วัดหงษ์ ขอให้มาแก้บนพร้อมๆกันในวันงานสมโภชแก้บนหลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ ที่จะจัดขึ้นในช่วงงานเพ็ญเดือน 4 ( ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ) ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 5-8 มีนาคม 2566 ในอดีต ต่างคนต่างหาลิเกมาเล่นประชันกันดังสนั่นลั่นวัดไปหมด โดยต่อมาทางวัดจึงได้วางกุศโลบายสำหรับผู้ที่จะมาทำการแก้บนให้มาลงทะเบียนจองคิวลิเกที่ทางวัดจัดหาไว้ให้ แล้วร้อง รำ เล่น ถวายหลวงพ่อเหลือเป็นรอบๆไป หรือจะบูชาธูปในราคาดอกละ 20 บาท เพื่อหารายได้เข้าวัดโดยใช้ธูป 1 ดอก เป็นตัวแทนลิเก 1 ตัวแสดง

สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำทุกปี พบว่าในวันจัดงานสมโภชแก้บนหลวงพ่อเหลือมีผู้ที่สมหวังจากการที่เคยบนบานศาลกล่าวแล้วสมหวังจำนวนนับพันนับหมื่นคน แห่กันมาร่วมงานแก้บนอันยิ่งใหญ่ในทุกๆปี ดังนั้นปีนี้หากท่านบนบานศาลกล่าวสิ่งใดหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใดไว้ก็สามารถมาร่วมบูชาธูป เพื่อใช้แทนตัวแสดงลิเก เพื่อใช้ในการแก้บนในครั้งนี้ได้ด้วย หรือมีความปรารถนาสิ่งใดที่ต้องการจะบนบานศาลกล่าวให้หลวงพ่อเหลือวัดหงษ์ประทานพรความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ช่วยเหลือ ก็ขอเชิญชวนมาเที่ยวงานในวันและเวลาดังกล่าว งานนี้เที่ยวฟรี!