ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย

ดับแล้ว 4 ศพเซ่นแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย





ad1

อุบลราชธานี-เสียชีวิตแล้ว 4 ศพ เหตุแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล เด็กชาย 11 ปี ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี จับปรับคนขับแพ 1 พันบาท ใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการไล่ตีกันในงานหมอลำซิ่ง จนต้องหนีลงแพ จนน้ำหนักเกินหรือไม่

สืบเนื่องจากกรณีแพข้ามฟากล่มกลางแม่น้ำมูล แพข้ามฟากล่มที่บ้านคำนกหอหมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 ราย ยังคงสูญหายอีก 2 ราย คือ นายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) พันธ์เสาร์ อายุ 11 ปี ลูกชาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ยุติการค้นหา เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการค้นหาตลอดทั้งวัน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่มืดเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน สำหรับร่างผู้สูญหายที่พบล่าสุด คือ นายฉัตรชัย ชะภูธร อายุ 31 ปี พร้อมกระเป๋าสะพาย ภายในมีเอกสารบัตรประชาชนของนายฉัตรชัย อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุน อีกจำนวน 3 นัด โทรศัพท์และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นายชาญยุทธ์ ชื่นตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพแพที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ พบว่าแพดังกล่าว หากเรียกตามสภาพแล้วเป็นเรือหัวตัดที่ดัดแปลงขึ้น เพื่อขนย้ายรถจักรยานยนต์และขนส่งชาวบ้านข้ามฟาก แต่ชาวบ้านจะเรียกว่าแพข้ามฟาก

นายชาญยุทธ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเรือที่เกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาต หรือขึ้นทะเบียนเป็นเรือโดยสารกับทางสำนักงานเจ้าท่าอุบลราชธานี เป็นเรือที่ชาวบ้านใช้ในการทำประมงและใช้รับจ้างขนส่งคนข้ามฟาก และคนขับเรือก็ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จึงได้ดำเนินการปรับผู้ที่บังคับควบคุมเรือในฐานใช้เรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตในการขับเรือ จำนวน 1,000 บาท