เเจ้งข้อหา"ส.ว.อุปกิต"สมคบฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ แต่ชั้นสอบสวนให้การปฏิเสธ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าวันนี้ได้รับแจ้งจากนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ว่าเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว. ได้เข้าพบผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบตามที่อัยการสูงสุดมอบหมายร่วมกับอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด

โดยนายอุปกิต แจ้งความประสงค์จะขอต่อสู้คดีกรณีถูกกล่าวหาดำเนินคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายอุปกิตไปที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด และได้ร่วมกับพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวนดำเนินการ ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 134 โดยแจ้งให้นายอุปกิต ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำตามที่ถูกกล่าวหาและได้แจ้งข้อหา เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกัน ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ให้ นายอุปกิตรับทราบข้อหา ทั้งนี้ในชั้นสอบสวนนายอุปกิตให้การปฏิเสธ

ภายหลังจากแจ้งข้อหาแล้ว ได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากร ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับแต่อย่างใด จึงนัดให้ผู้ต้องหาเข้าพบครั้งต่อไปวันที่ 17 เม.ย. 2566 เพื่อสอบสวนดำเนินคดี และต่อมาเมื่อคณะพนักงานอัยการซึ่งเข้าร่วมสอบสวน ได้รายงานให้อัยการสูงสุดทราบ อัยการสูงสุดได้ให้คณะพนักงานสอบสวนและคณะพนักงานอัยการ เร่งรัดทำการสอบสวนให้ครบถ้วนแล้วเสร็จโดยเร็ว และกำชับให้ทำการสอบสวนด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 มาตรา 8 ผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภา ท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงาน องค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กรรมการหรือผู้บริหารหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้า พนักงาน กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของ สถาบันการเงิน หรือกรรมการขององค์กรต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ กระทำความผิด ตามหมวดนี้ ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

เเละ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 10 เจ้าพนักงาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิก สภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้า หน้าที่ของรัฐ พนักงานองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กรรมการหรือผู้บริหารหรือ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการ จัดการของสถาบันการเงิน หรือกรรมการขององค์กรต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ ผู้ใด กระทำความผิดตามหมวดนี้ ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น กรรมการ อนุกรรมการ กรรมการธุรกรรม เลขาธิการ รองเลขาธิการ หรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ ผู้ใดกระทำความผิดตามหมวดนี้ ต้องระวาง โทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สําหรับความผิดนั้น